ไม่พบผลการค้นหา
ครูปรีชาพร้อมทนายความเดินทางมาขึ้นศาล ยันมั่นใจในพยานหลักฐานสามารถเอาผิดคู่กรณีได้ ด้านลุงจรูญส่งลูกสาวมาฟังการไต่สวนแทน ขณะที่ทนายษิทราเดินทางมาพร้อมทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร เชื่อตนเองไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล

ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี วันที่ 4 มิ.ย. 2561 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชน เดินทางมาขึ้นศาลพร้อมนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร และทีมงานมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน โดยในการเดินทางมาครั้งนี้ เนื่องจากทนายษิทรา ถูกครูปรีชา ใคร่ครวญ ยื่นฟ้องต่อศาลในความผิด ละเมิดอำนาจศาล ซึ่งนายษิทรา กล่าวว่า เรื่องการละเมิดอำนาจศาลนั้น ศาลน่าจะมีการวางข้อกำหนดว่าจะให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเรียบร้อยอย่างไร ส่วนเรื่องที่ตนมีการโพสต์ข้อความหรือรูปภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล เพราะตนไม่ได้มีการนำคลิปเสียงมาโพสต์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องอยู่ที่ศาลจะพิจารณาอย่างไร

ด้านครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้เดินทางมาพร้อมกับนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความส่วนตัว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยครูปรีชาและทนายความกล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ ไม่ได้เครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด โดยตนยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี ว่าจะสามารถพิสูจน์ความจริงและเอาผิดกับคู่กรณีได้แน่นอน 

ในส่วนของ ร.ต.ท. จรูญ วิมูล และภรรยา ไม่ได้เดินทางมารับฟังการพิจารณาด้วย แต่ส่งลูกสาวสองคนมาเป็นตัวแทนในการรับฟังการไต่สวนแทน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเรียกให้ภรรยาและลูกสาวของ ร.ต.ท.จรูญ มาเป็นพยานในคดีฝั่งครูปรีชาหรือไม่ ทางลูกสาวทั้งสองคนของ ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้และยังไม่ได้รับหมายเรียกแต่อย่างใด

ขณะที่นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ก็ได้เดินทางมาที่ศาลเช่นกัน โดยทั้งสองคนกล่าวเพียงสั้นๆว่า วันนี้ไม่น่าจะได้ขึ้นให้การณ์ เป็นเพียงการเดินทางมาสังเกตการณ์เท่านั้น


ศาลชี้ ทนายษิทราไม่ผิดละเมิดศาล - หลักฐานใหม่ครูปรีชาน่าสงสัย

ภายหลังเข้าฟังการสืบพยานของศาล นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ในเรื่องที่ตนถูกฟ้องละเมิดอำนาจศาลนั้น ศาลตัดสินไม่มีความผิด แต่ได้มีการระบุข้อกำหนดและแนวทาง เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและพยานหลักฐานในคดีต่อสื่อมวลชน

นอกจากนี้ นายษิทรา ยังระบุว่า ในวันนี้ (4 มิ.ย.) เป็นการไต่สวนในส่วนของครูปรีชาเพียงคนเดียว เนื่องจากมีรายละเอียดที่ต้องไต่สวนเยอะมาก จากการไต่สวนครูปรีชาในช่วงเช้ามีพยานหกลักฐานใหม่ที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่ทราบว่าครูปรีชาไปเอามาจากไหน ซึ่งตนจะได้ขอให้ศาลมีการตรวจสอบพยานหลักฐานชิ้นดังกล่าว ว่าเป็นพยานหลักฐานเท็จหรือไม่ต่อไป โดยในช่วงบ่าย เมื่อการไต่สวนครูปรีชาเสร็จสิ้น ตนก็จะได้สอบถามข้อสงสัยต่อครูปรีชาต่อไป

หลังจากนั้น ครูปรีชาพร้อมทนายความได้ลงมาจากห้องพิจารณาคดี โดยกล่าวเพียงว่า จนถึงขณะนี้การไต่สวน ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะต้องใช้เวลาจนถึงช่วงเย็น ในส่วนของพยานหลักฐานใหม่ที่มานำเสนอต่อศาลนั้น คงไม่สามารถเปิดเผยกับสื่อมวลชนได้ เนื่องจากศาลได้มีการกำหนดขอบเขตและแนวทางการนำเสนอข้อมูลต่อสื่อมวลชนออกมาแล้ว