พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานรับฟังการแถลงแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 60 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพของทั้งสามเหล่าทัพ ประจำปีการศึกษา 2561
โดยคณะนักศึกษาได้เสนอแนวทางยุทธศาสตร์เฉพาะ 6 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงแห่งชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม พลังงาน ด้านทุนมนุษย์และคุณภาพชีวิต ด้านความเป็นธรรมในสังคม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านการเมืองการปกครองและระบบบริหารจัดการภาครัฐ พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ ให้โอวาทตอนหนึ่ง เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่มียุทธศาสตร์ชาติมาก่อน การดำเนินการในอดีตทำตามแต่เพียงฝ่ายการเมือง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไทยเสียเวลาและเสียโอกาสไปมากแล้ว ถึงเวลาที่ต้องลดความขัดแย้ง เดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล รัฐบาลนี้จึงกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเพื่อเตรียมประเทศให้พร้อม
นายกฯ ครวญเบื่อใช้อำนาจ ปัดสืบทอดอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำถึงความจำเป็นในการมีหัวหน้า คสช. และการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาได้ในรัฐบาลปกติ ขณะที่ไม่ต้องการต่อทอดอำนาจ เพราะมีอำนาจจนเบื่อ และมีอำนาจจนไม่อยากใช้อำนาจในมือนั้นแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่ได้หวังให้ คสช.อยู่ต่อ เพราะจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ในอนาคตหากไม่ได้รัฐบาลที่ดี มีธรรมาภิบาลและเป็นประชาธิปไตย อาจต้องโทษไปที่สถาบันพระปกเกล้า
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ยังมีประชาชนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับการกาบัตรเลือกตั้งใบเดียว รวมถึงการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขณะที่ในวันนี้ตัวนายกฯและรัฐบาลโดนวิจารณ์อย่างหนักในทุกเรื่อง ทั้งที่ตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศให้ได้ จึงขอให้ทุกคนอย่าหลงเชื่อการบิดเบือนใส่ร้าย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมีเดียที่ต้องทำให้ถูกต้อง พร้อมกับย้ำว่า ทหารในวันนี้ต้องเป็นทหารอาชีพ ซึ่งไม่เหมือนทหารในต่างประเทศ เพราะทหารไทยนอกจากจะทำหน้าที่ปกป้องประเทศแล้ว ยังทำหน้าที่ในการพัฒนาประเทศด้วย
นายกฯ ซัด 'พิชัย' จ้อปมเศรษฐกิจ ฝาก 'ประวิตร' จับตา
พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า บัตรสวัสดิการคนจนที่รัฐบาลนี้ทำ ไม่ใช่การแบ่งแยกคนไทย พร้อมขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาหาเสียงเกี่ยวกับการเพิ่มราคาสินค้า เพราะมีพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความไม่พอใจการให้ข่าวของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน เกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้งที่ได้เชิญนายพิชัยมาปรับทัศนคติหลายสิบรอบ จึงฝากรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงให้ไปดูในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามนักธุรกิจที่เข้าร่วมงานว่า "ใครรวยบ้าง" รวมถึงก่อนเสร็จสิ้นการให้โอวาทได้ถามในห้องประชุมว่า "ใครรังเกียจผมบ้าง" ผลปรากฎว่าการถามทั้ง 2 ครั้งนี้ไม่มีใครยกมือแม้แต่คนเดียว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง