ไม่พบผลการค้นหา
ส่อง 5 ผู้ประกอบการสินค้า OTOP ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับผลิตภัณฑ์ ปูทางสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ หลังคว้ารางวัลชนะเลิศ "MOST’s Innovation OTOP Award 2560" จากกระทรวงวิทย์ฯ

ผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ OTOP ที่ภาครัฐพยายามผลักดัน เพื่อช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น จากการนำทรัพยากร ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ให้เกิดรายได้กลับสู่ชุมชน แต่ปัจจุบันกลับพบว่า ผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวนมากยังไม่สามารถเข้าสู่ช่องทางการตลาดได้ ด้วยสาเหตุจาก คุณภาพ มาตรฐาน รูปลักษณ์ และบรรจุภัณฑ์

สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ บริษัท สยามพิวรรธน์จำกัด และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล) จัดทำโครงการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และการประกวด MOST’s Innovation OTOP Award ขึ้นในปี 2560 เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนรุ่นใหม่ ให้มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของตลาด

โครงการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 80 ราย แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มอาหาร 2.กลุ่มเครื่องดื่ม 3.กลุ่มสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 4.กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกาย 5.กลุ่มของใช้ของตกแต่งและของที่ระลึก และ 6.กลุ่มธุรกิจรูปแบบใหม่ มาร่วมพัฒนาสินค้ากับทีมนักวิจัยจากหลายสาขา อาทิ นาโนเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ด้านอาหารและผลิตภัณฑ์ สถาปัตยกรรม รวมถึงด้านการตลาด การจัดการ เป็นเวลากว่า 5 เดือนด้วยกัน

ภายหลังการพัฒนาสินค้าจะนำมาสู่ขั้นตอนการประกวด Most’s Innovation OTOP Award 2560 โดยเกณฑ์การตัดสินได้ยึดหลักความใหม่ในตลาด ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการผลิต การนำนวัตกรรมมาใช้ผลิต ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม


731186.jpg


โดยเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.61) ได้มีการประกาศผลการประกวดออกมาแล้ว ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลทั้งชนะเลิศและรองชนะเลิศ ล้วนมีความน่าสนใจในแง่การจุดประกายไอเดียการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่แทบทั้งสิ้น

วอยซ์ออนไลน์เจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของ 5 ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งนี้


สะตออบแห้งชนิดคืนรูปสด "ชมนาด" จ.นครศรีธรรมราช รางวัลชนะเลิศ หมวดอาหาร


731194.jpg


ด้วยไอเดียแปลกใหม่ นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการแปรรูปอาหาร โดยผ่านกระบวนการทางฟิสิกส์ มาช่วยในการยืดอายุการเก็บรักษา "สะตอ" ได้นานถึง 6-12 เดือน หากต้องการนำมารับประทานก็เพียงนำไปแช่น้ำไว้ประมาณ1-2 ชั่วโมง แค่นี้เมล็ดสะตอจะคืนสภาพกลับมาใกล้เคียงกับเมล็ดสะตอที่แกะจากฝักสด

สิ่งที่ผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาภายหลังจากเข้าร่วมโครงการ คือ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย

"ชามัลเบอร์รี่แบบสติ๊ก ชงพร้อมดื่ม" จ.อุตรดิตถ์ รางวัลชนะเลิศ หมวดเครื่องดื่ม


731202.jpg


ด้วยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่นำเอาปัญหาของการดื่มชาซองที่มักจะมีตะกอนชาหลงเหลือก้นแก้ว มาแก้ไขโดยนำเทคโนโลยีด้านการแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ชามัลเบอรี่ละลายน้ำได้ง่าย ไม่หลงเหลือตะกอนบริเวณก้นแก้ว ภายหลังจากเข้าร่วมโครงการได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยนำมาแปลงสภาพเป็นสติ๊กเจลาติน ให้ดื่มง่ายยิ่งขึ้น เพียงฉีกซองนำสติ๊กชาใส่แก้ว เทน้ำร้อน และคนให้เข้ากัน แค่นี้ก็พร้อมดื่มได้ทันที อีกทั้งยังไร้ตะกอนชาก้นแก้วด้วย

"Banana Lip Balm ลิปบาล์มจากเปลือกกล้วยไข่" จ.กำแพงเพชร รางวัลชนะเลิศ หมวดสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร


731206.jpg


ผู้ประกอบการนำสารสกัดจากเปลือก "กล้วยไข่" ที่มีโดพามีนและแทนนิน สารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ คุณสมบัติช่วยในลดเลือนริ้วรอย และช่วยยับยั้งแบคทีเรีย พร้อมส่วนผสมจากขี้ผึ้งแท้ชั้นดี และน้ำมันมะพร้าวที่มีประโยชน์ด้านความชุ่มชื่น มาทำเป็นลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก ในบรรจุภัณฑ์รูปกล้วย

ซึ่งภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการ ทำให้ได้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปรับสูตรและส่วนผสมของลิปบาล์มให้มีความข้นหนืดที่พอดี ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีป้ายแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ได้มาตรฐาน

"ผ้าบาติกมีกลิ่นไม้หอมกฤษณาจากธรรมชาติ ผ้าบาติกที่ใช้สมุนไพรวาดลายแทนเทียน " จ.เชียงใหม่ รางวัลชนะเลิศ หมวดผ้าและเครื่องแต่งกาย


731227.jpg


เพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกด้วยการนำสมุนไพรมาใช้วาดลายแทนเทียนแบบเก่า และนวัตกรรมการใส่กลิ่นหอมจากสมุนไพร และกลิ่นหอมจากไม้กฤษณา ไม้มงคลที่เป็นที่นิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ด้วยการนำเทคโนโลยีการเพิ่มกลิ่นในเนื้อผ้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้กลิ่นหอมมีความคงทน


ภายหลังการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อสาธารณชนได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นผ้าคลุมฮิญาบ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตะวันออกกลาง


หลังเข้าร่วมโครงการ ได้รับการพัฒนาในเรื่องเทคโนโลยีการเติมกลิ่นธรรมชาติลงในเนื้อผ้า แนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ


"ที่นอนโฟมยางพาราลดแผลกดทับ" จ.กำแพงเพชร รางวัลชนะเลิศ หมวดของใช้และของตกแต่ง


731242.jpg


ผู้ประกอบการเกิดแนวคิดในการนำโฟมยางพาราที่มีลักษณะชิ้นเล็กๆ ในรูปทรงต่างๆ มาเย็บเป็นที่นอนสำหรับผู้ป่วย ข้อดีคือช่วยทำให้นอนสบาย และยังป้องกันแผลกดทับได้เป็นอย่างดี

หลังร่วมโครงการได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น โดยนำนวัตกรรมการออกแบบโฟมยางพารารูปทรงกลมขนาดเท่ากันบรรจุเป็นที่นอน พร้อมด้วยนวัตกรรมผ้านาโนซิงค์ที่นำมาทำที่นอน สามารถป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วยได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีวิธีการขจัดกลิ่นยางพาราโดยการเติมกลิ่นธรรมชาติเช่น กลิ่นตะไคร้หอม กลิ่นมะนาว กลิ่นวนิลา กลิ่นใบเตย กลิ่นสละ เข้าไปอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด รางวัลละ 20,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศได้รับรางวัลละ 10,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ผลงานโดดเด่นจะได้รับโอกาสทดลองวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในศูนย์การค้าเครือสยามพิวรรธน์อีกด้วย