'พัลซาร์' คือดาวนิวตรอนซึ่งหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูง และปล่อยคลื่นวิทยุออกมาเป็นจังหวะ โดยโจเซลีน เบล เบอร์เนล เป็นผู้ค้นพบดาวดังกล่าวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 ขณะยังเป็นนักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ
คณะกรรมการโนเบลได้มอบรางวัลให้แก่ แอนโทนี ฮิววิช อาจารย์ที่ปรึกษาของเบล เบอร์เนล ในฐานะที่เป็นผู้เสนอทฤษฎีและรายงานการค้นพบดาวพัลซาร์ต่อสาธารณะ แต่กลับไม่มีการมอบรางวัลร่วมให้แก่เบล เบอร์เนลแต่อย่างใด
เบล เบอร์เนล อธิบายกับสื่อหลายสำนักว่าเธอตรวจจับสัญญาณคลื่นวิทยุที่ถูกปล่อยออกมาในชั้นบรรยากาศซึ่งมีความถี่ประมาณ 1.3 ครั้งต่อนาที คล้ายจังหวะชีพจร และรายงานการค้นพบดังกล่าวกับฮิววิช และร่วมกันศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจนสามารถยืนยันได้ว่า สิ่งที่พบคือดาวนิวตรอนพัลซาร์ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเพราะเหตุใดอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอจึงเป็นผู้เดียวที่ได้รับรางวัลโนเบลจากการค้นพบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียนและซีเอ็นเอ็น รายงานตรงกันว่าในยุคสมัยดังกล่าว ผู้หญิงยังไม่ได้รับการสนับสนุนหรือยอมรับมากนักในแวดวงวิทยาศาสตร์ แต่เบล เบอร์เนล ระบุว่า การไม่ได้รับรางวัลโนเบลอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะทำให้เธอยังได้ทำงานศึกษาวิจัยที่แปลกใหม่อยู่ตลอด ขณะที่ผู้ได้รางวัลโนเบลอาจไม่ได้ทำอะไรมากนักเพราะถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ด้านยูริ มิลเนอร์ ผู้ร่วมผลักดันรางวัล Breakthrough Prize ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในแวดวงต่างๆ ประกาศมอบรางวัลนี้ให้แก่ เบล เบอร์เนล เมื่อ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเงินรางวัล 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 99 ล้านบาท) หลังจากการค้นพบพัลซาร์ผ่านพ้นไปกว่า 51 ปี
เบล เบอร์เนล ระบุว่า เงินรางวัลที่เธอได้รับจะนำไปสนับสนุนนักศึกษาหญิงและกลุ่มอื่นๆ ที่มักจะถูกสังคมมองข้าม โดยที่ผ่านมา เบล เบอร์เนล ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์หญิงที่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง