นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า กฎหมายคุ้มครองแรงงานได้กำหนดให้นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการจัดสวัสดิการที่จำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ลูกจ้าง เช่น การจัดให้มีน้ำดื่มสะอาด ห้องน้ำ ห้องส้วม สิ่งจำเป็นในการปฐมพยาบาล เป็นต้น สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างจำนวนมาก เช่น มีลูกจ้างทำงานในเวลาเดียวกันตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีห้องพยาบาลและพยาบาลไว้ประจำอย่างน้อยหนึ่งคนตลอดเวลาทำงาน
รวมทั้งต้องจัดแพทย์อย่างน้อยหนึ่งคนเพื่อตรวจรักษาลูกจ้างไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน สำหรับสถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างทำงานในเวลาเดียวกันตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป จะต้องจัดให้มีห้องพยาบาลและพยาบาลอย่างน้อยสองคนประจำตลอดเวลาทำงาน และต้องจัดให้มีแพทย์เพื่อตรวจรักษาไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 12 ชั่วโมงในเวลาทำงาน รวมทั้งจัดเตรียมยานพาหนะพร้อมที่จะนำลูกจ้างส่งสถานพยาบาลได้
อธิบดี กสร.กล่าวด้วยว่า กรณีที่ไม่สะดวกในการจัดแพทย์ประจำ นายจ้างสามารถทำความตกลงกับสถานพยาบาลที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นสถานพยาบาลที่นายจ้างสามารถนำลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยสะดวกและรวดเร็ว แทนการจัดให้มีแพทย์มาตรวจรักษาได้ ทั้งนี้ ต้องได้รับการอนุญาตจาก กสร.ก่อน
สำหรับนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะมีความผิด โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: