กูเกิล ประเทศไทยจัดงาน Google for Thailand ภายใต้แนวคิด LEAVE NO THAI BEHIND พร้อมขับเคลื่อนสังคมไทยเข้าสู่สังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบภายใต้ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลและยูทูบที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ และผู้สร้างสรรค์ผลงาน รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ในการใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์มกูเกิลในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ พันธกิจของกูเกิลจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมดิจิทัล ใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่

 1. Access - การเข้าถึง

กูเกิลได้เปิดตัว Google Station เพื่อให้บริการไวไฟ (Wi-Fi) สาธารณะคุณภาพสูงในไทย ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 4 ที่มีการให้บริการดังกล่าว รองจากอินเดีย อินโดนีเซียและเม็กซิโกที่เปิดให้บริการก่อนหน้านี้

สำหรับไทย กูเกิลร่วมมือกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีปัญหา ซึ่งทางกูเกิลหวังว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายนั้นจะสามารถช่วยให้ประชาชนติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกขึ้นและสามารถใช้อินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด

2. Education & Skill - การศึกษาและทักษะ

กูเกิล ประเทศไทยร่วมมือกับรัฐบาลไทยร่วมขับเคลื่อนสังคมดิจิทัล ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการจับอบรมและพัฒนาทักษะให้แก่ประชาชนและนักเรียนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างการเป็นผู้นำดิจิทัลและทักษะการเป็นพลเมืองดิจิทัล พร้อมเข้าสู่สังคมของการทำงาน 

นอกจากนี้ ทางกูเกิล ประเทศไทยยังร่วมมือกับกับบริษัททรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สร้างพื้นที่สังคมแห่งการเรียนรู้ควบคู่กันไปด้วย

3. Localized product & Local Content - การตอบสนองที่สอดรับกับท้องถิ่น และ เนื้อหาสังคมท้องถิ่น

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ผลิตคอนเทนต์บนเว็บไซต์ยูทูบมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย และการเข้าชมยูทูบของคนไทยก็ยังติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มีจำนวนชั่วโมงการเข้าชมสูงสุด ยูทูบจึงพร้อมที่สนับสนุนผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ โดยนำเข้าโปรแกรมและกิจกรรมต่างๆ เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของเอเชีย เช่น โครงการ 'Youtube pop-up space' ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่จะมีพื้นที่ให้ผู้ผลิตคอนเทนต์เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิด รวมไปถึงยังมีการให้บริการพื้นที่ผลิตและพัฒนาคอนเทนต์ที่ทันสมัย และไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้ที่มาใช้งาน

โดย 'Youtube pop-up space' จะเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ย. ปีนี้ และยังมีการจัดกิจกรรม Workshop Youtube Nextup เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตคอนเทนต์รายย่อยในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพลงบนยูทูบควบคู่กันไปอีกด้วย

นอกจากนี้ ยูทูบยังนำเข้าโปรมแกรม Creator for Change เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ผลิตที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางบวก โดยผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะได้รับเงินทุนสนับสนุนและเข้าร่วมพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม โดยเน้นหัวข้อใน 3 ประเด็นคือ

1. การมีอคติโดยไม่รู้ตัว

2. ความเกลียดชังในสังคม

3. ตรวจสอบก่อนแชร์

นอกจากนี้ กูเกิลยังออกฟีเจอร์ใหม่ใน Google map เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย ทำให้ผู้ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์สามารถคำนวณระยะทางและวางแผนในการเดินทางได้เหมือนขับรถยนต์ รวมไปถึงการบอกทางลัดต่างๆ เพื่อให้ผู้ขี่มีความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

4.SMEs & Startups - การตอบสนองต่อภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

ตั้งแต่ปี 2557 กูเกิลเปิดตัว Google my business เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในการดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยได้พัฒนาแฟลตฟอร์มภายในเว็บไซต์ของกูเกิล ในการให้ข้อมูลต่างๆ ของผู้ประกอบการ เช่น เวลาเปิดทำการ คำแนะนำติชมร้านค้า เบอร์ติดต่อร้านค้า เป็นต้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและค้นหาร้านค้าต่างๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

โดยที่ผ่านมา คนไทยใช้กูเกิลเป็นตัวช่วยในการค้นหาร้านค้าต่างๆ มากขึ้นถึง 2 เท่าภายใน 1 ปี และค้นหาคำใกล้เคียงเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• นายกฯ เปิดตัวกูเกิลสเตชั่น ดันเน็ตประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำ
• ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.เก็บแวต 'อี-บิสซิเนส' ส่งกฤษฎีกาพิจารณา