วันนี้( 19 ม.ค.) กระทรวงคมนาคม จะนำเสนอแผนฟื้นฟูเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ทั้งหมด 3 หน่วยงานได้แก่ ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทยและการบินไทย โดยมีวาระที่สำคัญคือแผนฟื้นฟู ขสมก.ที่จะมีการขอปรับขึ้นค่าโดยสารเข้าที่ประชุม
โดยขสมก.จะมีการขอเสนอปรับค่าโดยสารรถธรรมดา 1 บาท 50 สตางค์ และรถโดยสารปรับอากาศจะปรับเพิ่มขึ้นอีก ระยะละ 2 บาท หากได้รับการอนุมัติจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณา และหากได้รับการเห็นชอบ ทางขสมก.ก็พร้อมที่จะปรับอัตราค่าโดยสารภายในปีนี้ แต่จะดำเนินการภายหลังจากการนำรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ จำนวน 489 คัน เข้ามาให้บริการประชาชนแล้ว
ซึ่งการขอปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ ทาง ขสมก.ก็ให้เหตุผลว่าได้จัดเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงมานานแล้ว ทำให้ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง และการปรับราคาในครั้งนี้ก็ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 20 มกราคมปี 2558
ส่วนแผนฟื้นฟูของการรถไฟ ในช่วงก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้ให้การรถไฟไปศึกษาแผนเรื่องค่าโดยสาร ซึ่งค่าโดยสารในปัจจุบันของการรถไฟ ในสถานีแรกจะเริ่มต้นที่ 15 บาท และสถานีถัดไปจะคิดค่าโดยสารสถานีละ 2 บาท ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอแผนค่าโดยสารรถไฟเข้าที่ประชุมในวันนี้ด้วย
ส่วนแผนฟื้นฟูการบินไทย จะมีการเสนอให้ปรับแผนธุรกิจบางอย่างของการบินไทยให้ใกล้เคียงกับแผนธุรกิจของสายการบินโลว์คอสต์ โดยเฉพาะการ จัดหาเครื่องบินอาจต้องลดความหลากหลายของประเภทเครื่องบินลง และควรมีทรัพย์สินให้น้อยลง เน้นเช่ามากกว่าซื้อ หากสามารถปรับแผนธุรกิจบางส่วนให้ใกล้เคียงกับโลว์คอสต์ได้มากเท่าใดนั้น จะทำให้การบินไทยอยู่รอดมากขึ้น
ด้านนายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ก็ให้ข้อมูลว่าหากค่าโดยสารขสมก.ได้รับการอนุมัติก็จะทำให้รายได้จากการเดินรถเพิ่มขึ้น 5-6 แสนบาทต่อวัน
ล่าสุดวันนี้ยังไม่มีการลงมติขึ้นค่ารถเมล์ โดยที่ประชุมได้ให้กระทรวงคมนาคมนำกลับไปพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะถือว่าอยู่ในแผนธุรกิจของหน่วยงาน เพื่อให้สอดรับกันทั้งหมด และจะนำเสนอใหม่อีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป