ในวันนี้ (25 ธ.ค.60)เวลา 07.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อไปตรวจราชการ จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2560 ที่ จ.สุโขทัย ระหว่างวันที่ 25 - 26 ธ.ค.
โดยเมื่อเดินทางมาถึง จ.พิษณุโลก นายกฯ จะเดินทางไปสักการะพระพุทธชินราช และร่วมกิจกรรมอารยสถาปัตย์ ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จากนั้นเวลา 09.30 น.นายกฯ จะเยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน พร้อมกับพบประชาชน ที่บ้านวังส้มซ่า หมู่ที่ 1 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง
เสร็จแล้วในเวลา 10.40 น.นายกฯ จะเป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในที่ทำกิน และกล่าวกับประชาชน ที่อาคารศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ต.พลายชุมพล อ.เมือง ต่อด้วยเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่นภาคเหนือ ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ในช่วงบ่าย นายกฯ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ หรือบางระกำโมเดล 60 โครงการแก้มลิมบึงระมาณ บึงตะเคร็ง และบึงขี้แร้ง ต่อจากนั้นในเวลา 14.40 น.นายกฯ จะเดินทางไปยัง จ.สุโขทัย เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่นของ จ.สุโขทัย ที่หอประชุมอาคารอนุสรณ์ลายสือไท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้นำท้องถิ่น 50 คน ที่จะเข้าพบนายกฯ ในครั้งนี้ นำโดยนักการเมืองกลุ่มมัชฌิมาของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ได้นำอดีต ส.ส.ของจังหวัดมาทั้งหมด ประกอบด้วย นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นางพรรณศิริ กุลนาถศิริ นายกฯ อบจ.สุโขทัย , นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล , นายมนู พุกประเสริฐ , นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ , นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย , นายสมชาติ ลิมประพันธุ์ นายกเทศมนตรีเมืองสวรรคโลก และประธานหอการค้า จ.สุโขทัย , นางสุดาวดี วิริยะพงษ์ นายกเทศมนตรีต.เมืองเก่า , นายบรรจง ทัดนุ่ม นายก อบต.เมืองเก่า และนายสมาน สาสิงห์ อดีตสมาชิกสภา จ.สุโขทัย
และในเวลา 16.00 น.นายกฯ จะเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และทำพิธีเปิดตลาดวัฒนธรรม พร้อมกล่าวกับประชาชน ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายสมัย ในนามตัวแทนภาคประชาชน ได้นำเสนอความคิดว่าหากได้โอกาสนำเสนอจะเสนอปัญหา 2 ประเด็น คือเรื่องน้ำท่วม และปัญหาการทำมาหากิน ที่ทำให้รายได้ของประชาชนสุโขทัย ซึ่งอยู่ในระดับต่ำระดับที่ 16 จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ รายได้ต่อหัวต่อคนอยู่ที่ 59,900 บาท และเป็นที่ต่ำสุดของภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเมื่อมาวิเคราะห์ดูเกิดจากปัญหาน้ำท่วมซึ่งทำให้เกษตรกรทำการเกษตรได้เพียงละครั้งต่อปี ซึ่งต้องเร่งแก้ปัญหาให้ได้ อาจโดยการสร้างเขื่อน สร้างแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่ยังคิดว่าการรอเขื่อนใหญ่อาจสำเร็จยากจากการคัดค้าน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการทำบายพาสน้ำ ซึ่งจะทำให้ไหลผ่านไปได้จำนวนไม่มาก ทั้งด้านซ้ายและขวาของแม่น้ำยม เส้นทางน้ำของสุโขทัยนอกจากแม่น้ำยมจากจังหวัดแพร่แล้ว
อีกส่วนของเส้นทางน้ำคือมาจากแม่น้ำปิง ทาง จ.กำแพงเพชร ซึ่งทุกจุดอาจทำเป็นแก้มลิงเพื่อใช้ชะลอน้ำ และเป็นแหล่งน้ำจืด ได้เช่นเดียวกับแก้มลิงทะเลหลวง ซึ่งเป็นการเก็บน้ำบายพาส เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรของ จ.สุโขทัย
อีกทั้งต้องเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว และเป็นการเสริมอาชีพทางด้านการท่องเที่ยวที่สุโขทัยมีแหล่งต้นทุนอยู่สูงคืออุทยานประวัติศาสตร์ทั้งสองแห่ง คงต้องมีการระดมสมองในการทำการสำรวจ พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อเพิ่ม GDP ของประชาชน
และลดหย่อนในบางส่วนของภาษีเพื่อเป็นแรงดึงดูดใจ นอกจากนี้หากมีโอกาสจะเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการเลี้ยงวัว โดยให้เกษตรกรเสริมอาชีพการทำปศุสัตว์ เลี้ยงวัวด้วยการยืมวัวจากรัฐบาล ระยะเวลา 10 ปี จะกลายเป็นฝูงวัวในสิบปี จะทำให้รายได้ประชากรสูงขึ้น เพราะหากชาวบ้านขายวัวได้ตัวละ 30,000 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 15,000 หากรวมรายได้จาก GDP จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 15000 บาท ต่อคน และ เชื่อว่าจะอยู่ในแผนของคณะรัฐมนตรีที่สัญจรมาประชุมที่จังหวัดสุโขทัยในครั้งนี้ และท้ายที่สุดอยากให้การปรองดองเป็นผลสำเร็จ เพื่อการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป