สำนักข่าวเอพีและเดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ตำรวจอาร์เจนตินาและหน่วยข่าวกรองของรัสเซียร่วมกันจับกุมสมาชิกขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 5 ราย เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) โดยผู้ต้องหา 3 รายถูกจับกุมที่รัสเซีย ได้แก่ อดีตนักการทูตชาวรัสเซีย 1 ราย ถูกจับกุมที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงมอสโก ขณะที่อีก 2 รายเป็นผู้เดินทางไปรับกระเป๋าบรรจุโคเคนหนักเกือบ 400 กิโลกรัมจากสนามบินในรัสเซีย ส่วนอีก 2 รายถูกจับกุมที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา เป็นอดีตตำรวจ 1 ราย และพลเรือนอีก 1 ราย
แพทริเซีย บูลริช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งอาร์เจนตินา เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติในครั้งนี้เป็นการขยายผลสอบสวนคดีที่สถานทูตรัสเซียประจำอาร์เจนตินาแจ้งเบาะแสกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดเมื่อเดือน ธ.ค. 2559 หลังจากกระเป๋าเดินทางบรรจุโคเคนหนัก 389 ก.ก. มูลค่าราว 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,650 ล้านบาท) ถูกส่งไปยังสถานทูตรัสเซียในอาร์เจนตินา และพบเบาะแสบ่งชี้ว่าโคเคนดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปเยอรมนี เพื่อกระจายไปขายในประเทศแถบยุโรป
บูลริชระบุด้วยว่า ปฏิบัติการสอบสวนและจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลอาร์เจนตินาและรัสเซีย ซึ่งซ้อนแผนด้วยการส่งโคเคนพร้อมอุปกรณ์ตามรอยไปยังปลายทางตามเดิม และเริ่มเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงปีที่ผ่านมา จนสามารถรวบรวมหลักฐานซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้สำเร็จ
ขณะที่สำนักข่าวทัสส์ของรัสเซียรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า นิโคไล พาทรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งรัสเซีย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ กับ ฟูลวีโอ ปอมเปโอ รัฐมนตรีด้านยุทธศาสตร์ชาติแห่งอาร์เจนตินาเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อประสานงานสืบสวนกรณีดังกล่าว แต่ทั้งสองประเทศได้มีมติร่วมกันในภายหลังว่าจะต้องแต่งตั้งคณะทำงานระหว่างประเทศ เพื่อที่จะร่วมกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์
อ่านเพิ่มเติม: