นิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ได้เข้าพบนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ห้องทำงานในทำเนียบขาว เมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม) และได้ขอลาออกจากตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติกับทรัมป์ด้วยตัวเอง และทั้งคู่ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวร่วมกัน โดยเฮลีย์ไม่ได้เปิดเผยเหตุผลที่เธอขอลาออกอย่างชัดเจน และเธอยังไม่มีแผนที่แน่นอนว่าจะทำอะไรต่อไปหลังจากลาออก แต่เธอยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเธอไม่ได้วางแผนจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งหน้าในปี 2020 อย่างแน่นอน และเธอจะยังปฏิบัติหน้าที่ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้
ด้านทรัมป์เปิดเผยว่าเฮลีย์เคยพูดเรื่องอยากจะลาออกกับเขามาได้หลายเดือนแล้ว เพราะว่าต้องการมีเวลาพักผ่อน และทรัมป์กล่าวชื่นชมเธอว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยมมาตลอดสองปีที่ผ่านมา โดยทรัมป์หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับเฮลีย์ที่อาจกลับมาทำงานกับเขาอีกในตำแหน่งอื่นในอนาคต
เฮลีย์เคยเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อเธอเข้ามาเป็นทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ เธอเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญของสหรัฐฯที่วิพากษ์วิจารณ์รัสเซีย, ซีเรีย และ อิหร่าน อย่างไม่เกรงกลัว ขณะที่ ส.ส.จากพรรคเดโมแครตมองว่าการลาออกของเฮลีย์แสดงให้เห็นว่านโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ยังคงขาดความน่าเชื่อถือและไม่มีความชัดเจน
ทรัมป์จะประกาศชื่อผู้ที่จะมารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติคนใหม่ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งทรัมป์บอกว่าเขากำลังพิจารณา ดินา พาวเวลล์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา และอิวังกา ทรัมป์ ลูกสาวของตัวเอง ให้เข้ามารับตำแหน่งนี้ แต่ว่าอิวังกา ทรัมป์ ได้ออกมาทวีตข้อความปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติแล้ว