นางสาวเมทินี ศุภสวัสดิ์กุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับธุรกิจสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ณ วันที่ 4 ม.ค. 62 มีธนาคารพาณิชย์จำนวน 5 แห่ง ได้แจ้งหยุดทำการชั่วคราวสาขาที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และ สุราษฎร์ธานี รวม 64 สาขา โดยเป็นการปิดสาขาในจังหวัดนครศรีธรรมราช 50 สาขา (คิดเป็นประมาณร้อยละ 45 ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด) จังหวัดสงขลา 4 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 3 ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด) และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 10 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 7 ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด)
ในขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ได้รับผลกระทบจำนวน 4 แห่ง โดยเป็นการปิดสาขาในจังหวัดนครศรีธรรมราช 14 สาขา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 สาขา
ออมสิน ประกาศพักชำระเงินต้นดอกเบี้ย 3 เดือน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารมีมาตรการบรรเทาช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อทุกประเภทของธนาคาร โดยพื้นที่ใดที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัย และเป็นบุคคลที่มีที่พักอาศัยหรือสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบเสียหาย ส่งผลให้รายได้ลดลง ตลอดจนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สามารถพักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว ให้พักชำระเงินต้นได้อีก 2-3 ปี โดยในระหว่างพักชำระเงินต้น ให้ชำระเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยรายเดือนร้อยละ 50-100 ของดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น โดยเงื่อนไขการพักชำระหนี้หรือการผ่อนชำระหนี้ดังกล่าว จะพิจารณาตามความรุนแรงหรือผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ
สำหรับสาขาของธนาคารออมสินที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยธรรมชาติในครั้งนี้ มีจำนวน 7 สาขา ในพื้นที่ธนาคารออมสินภาค 17 จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ สาขาหัวไทร สาขาปากพนัง สาขาท่าศาลา สาขาเชียรใหญ่ สาขาสิชล สาขาขนอม และสาขาบางขัน รวมถึงตู้ ATM ที่ให้บริการนอกพื้นที่สาขาไม่สามารถให้บริการได้จำนวน 88 ตู้
อย่างไรก็ตาม พนักงานธนาคารออมสินในพื้นที่ที่ยังสามารถปฏิบัติงานได้และพื้นที่อื่น ได้นำถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น โดยธนาคารยังได้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ธนาคารกำลังพิจารณามาตรการช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ต่อไปอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :