นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ นำผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนต์ ในซอยเพชรบุรี 18 พร้อมกล่าวว่า อาคารดังกล่าวมีทั้งหมด 15 ชั้น ต้นเพลิงพบที่ช่องชาร์ป (ช่องเดินสายไฟ) ชั้น 5 มีกลุ่มควันปรากฏที่พื้นชั้น 6 และไฟไหม้อย่างรุนแรงที่พื้นชั้น 8-11 ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอยู่ในห้องชั้น 12 ซึ่งควันออกมาจากช่องชาร์ปพอดี และพบใยมะพร้าวซึ่งเป็นเชื้อเพลิงบนเตียงนอนในชั้น ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเตียงนอนดังกล่าวอยู่ตรงไหนในช่วงเกิดเหตุ ส่วนชั้น 14 เจอสายไฟละลายจำนวนมาก แต่โครงสร้างหลักของอาคารยังไม่เสียหายมากนัก สามารถซ่อมแซมและเปิดใช้งานต่อได้ แต่ต้องตรวจสอบโครงสร้างรองอีกครั้ง เพราะเหล็กบางส่วนโดนความร้อนทำให้พื้นโก่งตัว ต้องให้วิศวกรมาตรวจอย่างละเอียดคาดใช้เวลา 1-2 เดือน แล��วอาคารต้องปรับปรุงให้เสร็จ ทำเรื่องไปยังเจ้าพนักงานท้องที่อนุญาตจึงสามารถเปิดใช้ได้
โดยนายธเนศ กล่าวต่อว่า อุทาหรณ์ในครั้งนี้คือ ห้องชาร์ป ต้องมีการปิดช่องว่างให้หมด การมีรูหรือช่องว่างที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นลักษณะตัววี ตรงนี้ทำให้มีคนเสียชีวิต เพราะพอควันไฟโผล่มาช่องชาร์ปแต่ละชั้น ทำให้ควันลามไปทั่ว คนที่จะหนีเจอกลุ่มควันหนาสู้ไม่ไหว ต้องหนีกลับไปห้องตัวเอง อีกทั้งสายไฟที่ร้อนและเสื่อมสภาพทำให้เกิดประกายไฟในช่องชาร์ป หากมีช่องว่างในชั้น ทำให้ควบคุมเพลิงยาก พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกอาคารตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจาก "บริษัท ราชเทวี อพาร์ทเม้นท์ จำกัด" ยืนยันว่าทางบริษัทมีการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารอยู่เสมอ ซึ่งอาคารในเครือของบริษัทมีแค่ราชเทวี อพาร์ทเม้นท์ แห่งเดียวที่สร้างก่อนปี 2530 ล่าสุดตรวจสอบไปเมื่อเดือน พ.ย. 2560 เมื่อเกิดเหตุก็รู้สึกตกใจ แต่ทางบริษัทจะเยียวยาให้แก่ผู้อาศัย จะมีการหาที่อยู่ให้ใหม่ ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นต์ในเครือเดียวกัน จะถามความสมัครใจผู้อาศัยว่าสะดวกละแวกไหน และจะมีการดูแลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง