นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางเข้ายื่นเอกสารขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ที่หน่วยคัดเลือกทหาร วัดราษฎร์โพธิ์ทอง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมนำกระดาษและข้อความคัดค้านการเกณฑ์ทหาร และสวมใส่นาฬิกามา 14 เรือน
โดยเนติวิทย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าผ่อนผัน ว่า วันนี้มันหมดยุคหมดสมัยที่จะมาเกณฑ์ทหาร ซึ่งมีลักษณะเหมือนไพร่เหมือนทาส ไปถูกใช้แรงงานเป็นคนตัดหญ้า และถูกธำรงวินัยหรืออาจจะเสียชีวิต ถึงเวลาที่จะรักชาติในยุคใหม่ให้เหมาะสม ตอนนี้คนไทยมีศักยภาพมากหมดเวลาที่จะต้องเกณฑ์ทหารแล้ว ซึ่งวันนี้หากใครไม่เห็นด้วยก็สามารถมาถกเถียงเป็นประเด็นสาธารณะได้
ต่อมาเนติวิทย์ ได้นำภาพสวมใส่นาฬิกาและเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 และตั้งคำถามว่าการเป็นทหารเกณฑ์เพื่อใคร เพื่อคนที่บอกให้ทหารเกณฑ์รักชาติ แต่ตัวเองไม่มีจุดยืนทางจริยธรรม โดยเน้นย้ำว่าหมดยุคหมดสมัยแล้ว เพราะเราต้องการสังคมประชาธิปไตย สังคมที่เท่าเทียมกัน
ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนการบังคับการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ ขณะเดียวกันบอกการสวมใส่นาฬิกา 14 เรือน เป็นการตั้งคำถามว่าว่าการเป็นทหารเกณฑ์เพื่อรับใช้ชาติหรือเพื่อรับใช้ใครกันแน่
"เราสามารถรักชาติได้ การรักชาติของเราไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร" เนติวิทย์กล่าว
นอกจากนี้เนติวิทย์ ได้ทำแบบสำรวจโดยตั้งคำถาม 2 ข้อ คือ 1.เห็นด้วยหรือไม่ประเทศไทยควรเปลี่ยนจากบังคับเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ 2.เห็นด้วยหรือไม่ที่กองทัพไทยต้องออกมายืนยันว่าการเกณฑ์ทหารต้องเคารพสิทธิมนุษยชน ผ่านการสำรวจทั้งหมดของผู้เข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ทหารทั้งหมด 169 คน พบว่า 157 คน เห็นด้วย สะท้อนให้เห็นว่าระบบการณ์ทหารของกองทัพถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
ทั้งนี้เนติวิทย์ ได้นำหนังสือ 'ประเทศไทยเปลี่ยน การเกณฑ์ทหารต้องเปลี่ยน' มาขายและเชิญชวนให้อุดหนุน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่คนไทยรู้สึกอึดอัด แต่ไม่มีคนที่ต่อสู้เรื่องนี้แบบจริงจังๆ และเขาขอเป็นตัวแทนต่อสู้เพื่ออนาคตของประเทศไทยให้ดีกว่านี้ ต่อสู้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้
อ่านเพิ่มเติม
