พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าว ได้สอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า ขณะนี้ คสช.อยู่ในช่วงเดินสายใช้พลังดูด โดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆ ว่าไม่ได้ยิน เพราะตนไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น ใคระจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ทำไป ขณะนี้ขอทำงานก่อน
สำหรับวันนี้ (24 เม.ย.) ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี มีนักร้องวง BNK48 จำนวน 8 คน อาทิ 'เฌอปราง' -เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวง, เจนนิษฐ โอ่กระเสริฐ, 'จ๋า' ณปภัช วรพฤทธานนท์, 'ไข่มุก'- วรัทยา ดีสมเลิศ , 'มิวสิค'- แพรวา สุธรรมพงษ์ , 'เนย'- กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, 'เปี่ยม' - รินรดา อินทร์ไสง และ 'ซัทจัง' สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์ เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลเตรียมพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว 'Happy Family Radio F.M.105 MHz. : วิทยุเพื่อครอบครัว' ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นวิทยุครอบครัวตามแนวทางที่ นายกฯ มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัว ให้เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยจะเน้นให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และดำริให้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ในรายการศาสตร์พระราชา ที่จะมอบของขวัญให้กับประชาชน และออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. 2561 ซึ่งตรงกับวันครอบครัว
ในระหว่างเปิดตัวสถานีวิทยุ happy family FM 105 เมกะเฮิร์ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ได้พบกับสมาชิก BNK48 ทั้ง 8 คน โดยสอบถามและพูดคุยถึงกิจกรรมที่สร้างสรรค์ของเยาวชน ซึ่งเป็นแบบอย่าง หรือ ไอดอล ที่วัยรุ่นชื่นชอบ พร้อมร่วมกิจกรรมจับมือสมาชิก BNK48 เป็นเวลา 8 วินาที เป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ต้องซื้อบัตรจับมือ และ ถ่ายภาพร่วมกันในท่าเฉพาะของสมาชิก เช่น 1 บาท และ 5 บาท อย่างเป็นกันเอง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังโชว์ลีลาร่วมเต้นท่าปั้นข้าว หรือ โอนิกิริ ซึ่งเป็นท่าเต้นยอดฮิตเพลงคุกกี้เสี่ยงทายด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างพบปะไอดอล BNK48 ว่าต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาประเทศ แม้จะต่างวัยกันแต่ก็สามารถร่วมมือไปได้กันได้ พร้อมกันนี้ยังกล่าวกันเด็กๆ ที่มาร่วมงานเปิดตัวคลื่นวิทยุว่า "ลุงอยู่กับพวกหนูทั้งวัน ถ้าอยากรู้ว่าลุงอยู่ตรงไหน ให้เอามือมาแตะที่หัวใจ"
ขณะที่ ผู้ชมทางแฟนเพจคลื่นวิทยุ ต่างชื่นชมศิลปิน BNK48 และเด็กๆ ที่มาร่วมงาน พร้อมตั้งคำถามกับนายกรัฐมนตรีว่า "เมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง"
ทั้งนีี้ สถานีวิทยุ happy family FM 105 เมกะเฮิร์ต เกิดขึ้นตามดำริของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นช่องทางนำเสนอรายการที่มีประโยชน์ให้แก่เด็ก เยาวชน และ ครอบครัว พร้อมแนะนำให้ประเมินผลตอบรับของประชาชนที่รับฟัง ทั้งให้เพิ่มหลักคิดที่ดีและถูกต้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคนไทยทุกคนก็ต้องปรับตัว อย่าออกมากดดัน หรือ แสดงความคิดที่ไม่ถูกต้อง
"ช่วงนี้ เป็นช่วงที่เปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งผมเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง เข้ามาทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่คนของฝ่ายใด ดังนั้น อย่านำผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ร่วมงาน 'อาลีบาบา' หวังสร้างช่องทางการค้าออนไลน์
สำหรับกรณีความร่วมมือกับนายแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป ล่าสุดนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นเพียงการเปิดช่องทางการค้าออนไลน์ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน ไม่ใช่การบังคับให้ใครต้องเข้ามาขาย ดังนั้นอย่าหลงเชื่อคำบิดเบือนที่มีการกล่าวหาในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังกลุ่ม BNK 48 ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า นายกฯ ใจดีและบรรยากาศวันนี้ดีมาก เป็นครั้งแรกที่มาทำเนียบรัฐบาล ได้พบเจอนายกฯ ครั้งแรกในวันนี้ก็เหมือนในโทรทัศน์ แต่ตัวจริงตัวใหญ่กว่า ใจดีกว่าที่คิดไว้ ซึ่งนายกฯ ขอให้พวกเราพัฒนาตนเอง และต้องเป็นตัวอย่างที่ดีกับน้องๆ พร้อมให้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่อยากทำ พร้อมขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้นายกฯ เพราะท่านทำงานหนัก เพื่อให้เดินหน้าประเทศไทยต่อไป ซึ่งเชื่อว่าสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและจะเกิดการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ยังจะมีการประชุม คสช.ก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าเรื่องความช่วยเหลือทีวีดิจิทัล หลังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมเพื่อขอข้อมูลก่อนหน้านี้ เพื่อรายงานให้ที่ประชุม คสช.รับทราบ ว่าจะให้มาตรา 44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการหรือไม่
ขณะที่ วาระที่น่าสนใจ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอขอความเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น โดยให้เพิ่มบทบัญญัติการไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต เช่น เป็นบุคคลล้มละลาย ถูกยึดทรัพย์ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ เคยต้องคำพิพากษา หรือเป็นคู่สัญญารัฐทั้งทางตรงและทางอ้อมจะหมดสิทธิ์ในการลงเลือกตั้งซึ่งหากผู้สมัครรู้ว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1–10 ปี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีสิทธิ์สั่งให้พ้นจากตำแหน่งได้
ข่าวเกี่ยวข้อง :