การประชุมสภาผู้แทนราษฎรโคโซโวถูกยกเลิกกะทันหันในวันที่ 21 มี.ค. หลังจากที่ ส.ส.ของพรรค SDM ฝ่ายค้านของโคโซโว เปิดแก๊สน้ำตา 3 กระป๋องในห้องประชุมรัฐสภา เพื่อสกัดการพิจารณาวาระข้อตกลงปักปันเขตแดนใหม่ระหว่างโคโซโวและมอนเตเนโกร ประเทศเพื่อนบ้าน
เว็บไซต์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า สมาชิกพรรคเอสดีเอ็มคัดค้านข้อตกลงปักปันเขตแดนซึ่งตัวแทนรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเห็นชอบร่วมกันตั้งแต่ปี 2558 โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงดังกล่าวทำให้โคโซโวสูญเสียดินแดนไปประมาณ 20,000 เอเคอร์ แต่นักวิชาการส่วนหนึ่งคัดค้านว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ตามกำหนดการประชุมสภาเดิมนั้น ส.ส.ในสภาทั้ง 120 คนจะต้องโหวตว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะให้สัตยาบันข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า 2 ใน 3 ของสภาจะโหวตรับรองข้อตกลง ทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านไม่พอใจและใช้วิธีดังกล่าวในการระงับการประชุม
สำนักข่าวรอยเตอร์/ยูเอสนิวส์ รายงานว่า เกร็ก เดลาวี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพริสตินา เมืองหลวงโคโซโว รวมถึงสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรป (อียู) ประจำโคโซโว ต่างก็ออกแถลงการณ์ประณาม ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยระบุว่า การใช้แก๊สน้ำตากลางสภาไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในประเทศแถบยุโรป และการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาสถานะสมาชิกอียูแก่โคโซโวด้วย เพราะในขณะนี้ โคโซโวเป็นประเทศเดียวในคาบสมุทรบอลข่านที่พลเมืองยังต้องขอวีซ่าเข้าประเทศอียู
ทั้งนี้ โคโซโวเป็นประเทศเกิดใหม่ซึ่งประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 หลังจากที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ใช้เวลาสู้รบในสงครามกลางเมืองนานนับสิบปีเพื่อขับไล่กองกำลังความมั่นคงเซอร์เบียให้ออกไปจากพื้นที่
สหรัฐฯ และอียูเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณและการจัดการก่อตั้งประเทศ รวมถึงให้ความช่วยเหลือด้านการฟื้นฟูเยียวยาแก่โคโซโวมาจนถึงปัจจุบัน