ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีกับ 8 แกนนำเครือข่ายจัดกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ ความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ขัดต่อคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 61 พ.ท.ภูษิต คล้ายหิรัญ ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับกองร้อย รักษาความสงบกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้รักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในพื้นที่อ.คลองหลวง และอ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทางกฎหมายในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นความผิดตามหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ จำนวน 8 คน ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่าย People Go Network Forum ที่จัดกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ

เดินเพื่อมิตรภาพ.jpg

นิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (คนกลาง)

รายชื่อแกนนำทั้ง 8 คนประกอบด้วย นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์, นายอนุสรณ์ อุณโณ, นายนิมิตร์ เทียนอุดม, นายสมชาย กระจ่างแสง, น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา, นางนุชนารถ แท่นทอง, นายอุบล อยู่หว้า, และนายจำนงค์ หนูพันธ์ โดยทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา หากยังไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และถ้าหากไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งจะดำเนินการออกหมายจับทันที 

ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยกับวอยซ์ ออนไลน์ว่า หลังทราบข่าวถูกแจ้งความดำเนินคดี ทางกลุ่มได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่าจะให้จัดกิจกรรมนี้ต่อไป ไม่มีการหยุด สำหรับแกนนำทั้ง 8 คนที่ถูกตั้งข้อหานี้ต้องสู้คดีกันไป คนที่เหลือจะเดินต่อจนถึงจุดหมายปลายทางคือจังหวัดขอนแก่น 

ขณะที่นายณัฐวุฒิ อุปปะ มูลนิธิคนเพียงไพร หนึ่งในทีมเดินมิตรภาพให้ความเห็นว่า คิดว่าถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม เข้าใจว่าต้องดำรงความยุติธรรม แต่ถ้าเป็นการแจ้งข้อหาส่วนอื่น ก็ให้ดำเนินการไป ซึ่งทีมทนายของเรามีการพูดคุยเรื่องนี้อยู่

ด้านนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หนึ่งในผู้ถูกแจ้งข้อหา เปิดเผยว่าเบื้องต้นต้องขอดูรายละเอียดการแจ้งข้อหาก่อน และเมื่อถามถึงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงอะไร เลิศศักดิ์ ระบุว่า เป็นความใจแคบ ที่ไม่ควรปิดกั้น และยืนยันว่าจะเดินตามปกติต่อไป

ในขณะที่ นายเอกชัย อิสระทะ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ หรือ กป.อพช.ใต้ หนึ่งในทีมเดินมิตรภาพ ให้ความเห็นว่าการแจ้งข้อหาของทหาร สะท้อนถึงความไม่เข้าใจในรัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิการแสดงออก ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และสิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งจะทำให้ภาคประชาชนรู้สึกว่าเป็นการโดนตรึงไม่ให้เคลื่อนไหว เวลาพูดปัญหาจากการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลกำลังคิดผิดที่ใช้กระบวนการทางกฎหมายมาควบคุม

ทั้งนี้หากรัฐบาลมีความจริงใจ อยากให้เปิดเวทีดีเบต เพื่อแลกเปลี่ยน ซึ่งทางเครือข่ายพร้อมที่จะเสนอข้อมูลในพื้นที่และข้อมูลทางวิชาการต่อปัญหาที่เกิดขึ้น

ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน 139 องค์กรออกแถลงการณ์โดยระบุว่าประกาศและคำสั่งของ คสช. อันมีที่มาจากอำนาจไม่ชอบธรรมต้องถูกยกเลิก เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ และต้องหยุดใช้เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนทันที พร้อมทั้งให้ คสช. ทบทวน ยกเลิกกฎหมาย นโยบาย มาตรการ โครงการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน โดยเฉพาะ 4 ประเด็นหลักที่เครือข่าย People Go นำเสนอในทันที และต้องให้เครือข่าย People Go ทำกิจกรรมเดินเท้าและสื่อสารสังคมได้จนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ให้ประชาชนได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ และคืนประชาธิปไตยสู่สังคมไทยโดยเร็ว

ทั้งนี้กิจกรรม "We Walk เดินมิตรภาพ" จัดโดยเครือข่าย People Go เป็นการเดินเท้ารณรงค์ระยะเวลา 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังจ.ขอนแก่น เพื่อสื่อสารถึงความต้องการประชาชนที่จะมีส่วนร่วมใน 4 ประเด็น ได้แก่ หลักประกันสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร สิทธิชุมชน และสิทธิทางการเมืองในรัฐธรรมนูญใหม่

แถลงการณ์ของเครือข่ายภาคประชาสังคมระบุอีกว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพการชุมนุม และเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน ตามปกติที่ไม่ขัดต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แต่อาจกระทบกระเทือนต่อการตัดสินใจออกกฎหมายและนโยบายต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อ คสช. และกลุ่มทุนโดยไม่สนใจประชาชน จึงเห็นควรสนับสนุนกิจกรรมลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำในทุกพื้นที่และทุกประเด็นปัญหา

การที่ตำรวจและทหารอ้างคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 เป็นเหตุในการสั่งห้ามทำกิจกรรม และให้กำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายเข้าห้ามผู้ชุมนุมออกเดินเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 และการติดตามคุกคาม ข่มขู่ กดดันสารพัดวิธีเพื่อให้การเดินเท้าเป็นไปอย่างยากลำบาก เป็นความไม่ชอบธรรมอีกครั้งหนึ่งที่ คสช. กระทำต่อประชาชนที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง