นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยให้การต้อนรับกลุ่มสมาชิกรัฐสภาและภาคเอกชนของญี่ปุ่นว่า ในวันนี้ได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการแลกเปลี่ยนสร้างความสัมพันธ์นักการเมืองไทย-ญี่ปุ่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะจากการสังเกตุ ส.ส. ที่มาพบเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ในวันนี้ยังมีผู้แทนนักธุรกิจใหญ่จากบริษัท JC service ที่เป็นบริษัท เกี่ยวกับการผลิตพลังงานโดยใช้ยางพารา ซึ่งต้องการลงทุนในประเทศไทย และอยู่ในระหว่างการประสานงานเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ยังมีความแน่นแฟ้น โดยทางญี่ปุ่นนต้องการให้ไทยไปเยื่อนที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งตนเองได้ยืนยันว่าประเทศไทยมีนโยบายที่จะไปเยือนญี่ปุ่นในทุกจังหวัด
พร้อมกันนี้ นายสมคิด ยังยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้ทางญี่ปุ่นไม่มีการสอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย เชื่อว่าทางญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้น ไม่มีปัญหาอะไร เพราะในระยะหลัง ในการเดินทางมาเยื่อนไทยไม่เคยถามเรื่องการเมืองเลย เพียงแต่ขอให้ดูแลเมื่อเข้ามาลงทุนในไทยเท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - ญี่ปุ่น นายสมคิดระบุว่า ญี่ปุ่นมีความรอบคอบในเรื่องการดำเนินโครงการอย่างมาก มีการศึกษาโครงการล่วงหน้าเป็นปี โดยขณะนี้การศึกษาโครงการได้เสร็จสิ้นแล้วแต่ยังไม่ได้สรุปส่งมาให้ตนเอง และหลังจากนี้ จะมีการพิจารณาว่าจะเริ่มต้นอย่างไรธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JBIC
นายสมคิด ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน พย. 2560 อยู่ที่ร้อยละ 13.36 ทำให้ค่าเฉลี่ยทั้งปีอาจอยู่ที่ร้อยละ 10.1 ถือเป็นการเติบโตที่สูงในปีนี้ ส่วนการนำเข้าเริ่มสูงขึ้นสะท้อนให้เห็นการนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก โดยเชื่อว่าทิศทางการเติบโตจะส่งผลไปถึงปีหน้าทางเศรษฐกิจ