เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ. ศบค. ส่วนหน้า พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแผนงานโครงการติดตามแผนงานโครงการด้านความมั่นคง การพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ และพบปะประชาชน ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา
ขณะที่บรรยากาศบริเวณศูนย์รวมราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชาชนสวมเสื้อเหลืองมารอต้อนรับบริเวณด้านหน้าพร้อมชูป้ายให้กำลังใจ สู้ๆ FC ลุงตู่ เรารักลุงตู่ พร้อมร้องเพลงบ้านเกิดเมือง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะส่งสัญลักษณ์ ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ให้กับประชาชนที่มารอต้อนรับ และทักทายแบบเป็นกันเอง พร้อมกับกำปั้นและทุบหน้าอกด้านซ้ายส่งให้ประชาชน ก่อนที่จะเดินทางเข้ารับฟังการบรรยายผลการดำเนินการ
นายกฯ ย้ำคิดถึงชาวใต้ รับไม่มีความสุขเห็นคนมีหนี้
โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบพันธุ์กล้าไม้ ทุเรียน กาแฟ และต้นพันธุ์ไผ่ และกล่าวให้กำลังใจประชาชน โดย กล่าวทักทายสวัสดีประชาชน สลามมาลัยกุม ประชาชนที่ รักทุกท่าน ขอสันติจงมีแด่ท่าน วันนี้มาด้วยความคิดถึงชาวใต้ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการมาโดยตลอด เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ค่อนข้างมีความอ่อนไหว ทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจ และต่างๆรัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ตราบใดที่ตนยังเป็นรัฐบาลอยู่ตนจะทำหน้าที่ของตนในการแก้ปัญหาเดิมและอะไรใหม่ๆให้เป็นรูปธรรม และทุกคนถือเป็นครอบครัวเดียวกันเป็นครอบครัวประเทศไทย อยู่ภาคไหนศาสนาใด ก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยพหุวัฒนธรรม ก่อนที่จะแนะนำคณะรัฐมนตรีที่เดินทางมาร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า มารับฟังความก้าวหน้าในการดำเนินการบริหารจัดการ และตนต้องการสร้างแนวคิดใหม่ๆเพื่อจะให้สามารถเดินไปด้วยกันได้ อะไรคือรัฐบาลดำริ อะไรคือรัฐบาลนโยบาย นี่คือฝ่ายบริหาร แล้วข้างล่างจะทำงานให้ร้อยเรียงกันได้อย่างไร และจะบูรณาการอย่างไรให้เกิดผลสักทีจริงๆจังๆตนคิดว่า ตนคิดว่าทุกคนทุกรัฐบาล พยายามดำเนินการมาโดยตลอด แต่ตนมองว่าดำเนินการไปได้ช้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนเป็นห่วงเป็นใยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ตนขอย้ำไปยังข้าราชการทุกส่วนงาน ให้ไปดู TT Map ซึ่งมีรายละเอียด มีตัวชี้วัดอยู่หลายตัวว่าจังหวัดเรานั้นเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นอย่างไรมีความอ่อนไหวตรงไหน ก็ไปพัฒนาตรงนั้น ให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังให้ไปติดตาม Agri Map หลายคนอาจจะเคยได้ยินหลายคนอาจจะเห็นแล้ว เพราะจะได้รู้ว่าควรปลูกพืชอะไรวันนี้ท่านปลูกพืชอะไรตนไม่ว่า แต่วันหน้าต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ หากทำอย่างเดิมอย่างเดียวก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ แล้วมีอาการปลูกอะไรเสริมหรือไม่ มีรายได้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ที่มากกว่าการรอเพียงผลผลิต และรายได้ตามฤดูกาลอย่างเดียว
สิ่งสำคัญคือการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ตนรู้ทุกคนมีหนี้ ตนไม่มีความสุขหรอก เพราะฉะนั้นจะต้องแก้ไขอย่างระมัดระวังการทำอะไรก็ตามจะต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด เรื่องข้อกฎหมายบทบัญญัติหลายอย่างอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง มีอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องทำด้วยความชัดเจน ให้เกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจจากประชาชน ทุกอย่างทำได้หรือไม่ได้อยู่ที่ประชาชนทั้งสิ้น หลายเรื่องเกิดขึ้นมาในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ ทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้ว ซึ่งก็มีการคลี่คลายไปแล้ว
ย้ำทำ SEA ให้จบให้ประชาชนยอมรับได้ก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าทุกอย่างในทางนโยบายได้กำหนดมาในการพัฒนาเริ่มจะอะไรก็แล้วแต่ จะทำได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประชาชน ทั้งในเรื่องของการทำการศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ที่ต้องทำให้จบและครบถ้วนสมบูรณ์ ประชาชนยอมรับได้แล้วค่อยทำต่อ หากทำตามนี้เข้าใจกันก็สามารถทำต่อได้ แต่หากประชาชนไม่เห็นชอบก็ทำไม่ได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาถามประชาชนว่า "เนาะ ดีหรือไม่" แล้วเราจะดูแลคนที่เยียวยา คนที่มีผลกระทบอย่างไรต้องไปดูด้วยนี่คือการทำงานการลงทุนต่างๆ ที่ต้องดูทุกมิติใครเดือดร้อนมากหรือน้อย โดยหากจะทำไปเลยเต็มพื้นที่คงยาก อะไรที่ทำได้ก็ทำก่อนแต่ต้องผ่าน SEA ก่อนทุกเรื่อง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนขอเน้นย้ำศอ.บต.ด้วย
เตือนระวังความรุนแรง เผย ร.10 รับสั่งรัฐบาลทำหน้าที่ให้ประชาชนมีความสุข
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงงานด้านความมั่นคง ว่า สถิติด้านความรุนแรงก็ค่อนข้างที่จะลดลง แต่ก็ยังมีอยู่ ตราบใดที่กระบวนการเหล่านี้ยังไม่ยกเลิก หรือไม่เลิกไปหรือหมดไป ก็ยังมีอยู่ ทั้งหมดจะต้องช่วยกันระมัดระวัง แจ้งเตือนทั้งตัวเองและเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นสังคมจะช่วยกันได้บ้าง ในประเด็นเรื่องของความมั่นคง รู้จักการสังเกต บางครั้งหากขาดความระมัดระวังเจ้าหน้าที่ก็ดูแลไม่ทั่วถึง ตนขอพูดฝากไปยังพื้นที่อื่นๆด้วยเช่นกัน
โดยวันนี้ที่ตนเดินทางมา ตนคิดไม่เคยหยุดตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ปีแรกที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ได้อย่างไร เกิดสังคมที่เป็นธรรมมรสังคมพหุวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์และมีคุณค่า พร้อมกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความสุข สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ส่งรับสั่งกับตนเอง ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุขมีความพึงพอใจ ตนก็รับพระราโชบายมาโดยตลอด และพยายามทำมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา บางอย่างก็ก้าวหน้าไปไกลมาก จนไปสู่อนาคตได้บางอย่างก็ยังพันอยู่ แก้ไขปัญหาเดิมๆแบบเดิมๆ วันนี้จำเป็นต้องตั้งเป้าใหม่ ในการที่จะทำงานต่อไป ในงบประมาณปี 2565
พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า นอกจากนี้สิ่งที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน คือการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ให้เป็นรูปประธรรมซึ่งประชาชนต้องมีส่วนร่วม และมีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน เช่น ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีอาชีพและรายได้จากการเกษตร การปลูกพืชผลไม้ ปศุสัตว์ ซึ่งรายได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากราคามีความผันผวน ซึ่งรัฐบาลจำเป็นจะต้องดูเรื่องการประกันราคา ที่มากขึ้นทุกวันเนื่องจากราคาไม่สามารถควบคุมได้เลย นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหา ต้องไปดูว่ามีวิธีการอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการมาคือ กพจ. คือ การพัฒนาการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน จึงขอความร่วมมือด้วยในทุกพื้นที่ ในการขอข้อมูล จึงต้องติดตาม เนื่องจากหลายคนได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว หรือมีทุนเพียงพอ หรือบางคนต้องรอรับสนับสนุนให้ ซึ่งจะต้องมีการชี้เป้าออกมารายครัวเรือนซึ่งจะมีการสำรวจในพื้นที่ และพื้นที่เองก็ต้องสแตนบายข้อมูลไว้ให้ด้วย และตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่
แนะอย่าอ่านข่าวหน้าการเมือง ปวดหัว ดูที่เป็นประโยชน์ดีกว่า
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาหลายเรื่องทั้งปัญหาความยากจนหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ก็รู้ว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหา ที่เกิดกับคนทุกประเภท ตราบใดที่เรายังมีรายได้น้อยมีลูกหลายคนลูกก็อยากจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เทคโนโลยีก็ดีขึ้น เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้เขานั้นมีรายได้ที่เพียงพอ นี่คือสิ่งที่ตนนั้นกังวล ซึ่งต้องคิดกันใหม่ ทำกันใหม่ เพราะฉะนั้นนโยบายต่อไปนี้การใช้จ่ายงบประมาณจะต้องคุ้มค่า ชัดเจนว่าจะทำสำเร็จจริงหรือไม่จริง โครงการใดที่ไม่มีประโยชน์ เอามาทำโครงการที่มีประโยชน์ เรื่องการอบรมบางทีก็อบรมกันมาเยอะ ต้องไปตามว่าอบรมแล้วทำจริงหรือเปล่า หากไม่ทำแล้วก็อย่าไปอบรมเลย เสียประโยชน์เสียเวลา วันนี้หากอ่านในหนังสือพิมพ์ มีของที่ไหนมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน อะไรสักอย่างมีแบบนี้ทุกวันในสื่อโทรทัศน์ ขออย่าไปอ่านหน้าการเมืองปวดหัว ดูอะไรที่เป็นประโยชน์กับเราดีกว่า
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ทุกคนต้องรู้จักการเรียนรู้ตนไม่ขอโทษใคร คงเป็นความผิดของตนมั้ง ที่ทำให้ทุกคนเรียนรู้ไม่ได้ แต่ทุกคนต้องหาใฝ่รู้ ว่าวันนี้รัฐบาลทำอะไรบ้าง ในโซเชียลมีเดียวันนี้มีอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มันเป็นความขัดแย้ง เรื่องที่เป็นสาระส่วนใหญ่ไม่มีใครเข้าไปอ่าน แม้กระทั่งว่ารัฐบาลทำอะไรอย่างไรก็ไม่เข้าไปอ่าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ขอความกรุณาดูหน่อย อะไรที่ดีๆ อะไรที่จะเกิดประโยชน์ และอะไรที่จะเป็นการพัฒนาตัวเอง ก็ต้องต่อยอดกันให้ได้ สิ่งสำคัญคือการพัฒนาถิ่นฐานฐานราก ฐานรากคือพวกเรา ตึกทุกหลังบ้านทุกหลังต้องมีฐานรากในการก่อสร้าง หากฐานล่างเข้มแข็ง คือทุกคนเข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะเข้มแข็ง และต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยนั้นมีรายได้ รัฐบาลมีรายได้จะได้นำเงินเหล่านั้นมาดูแลทุกคน ที่มีรายได้น้อย นี่คือเป็นสิ่งที่เป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้ หากรัฐบาลไม่มีรายได้อะไรเลย ก็จะมาดูแลเรื่องเก่าๆไม่ได้มากนัก หากทำคู่ขนานกันไปจะดีกว่าหรือไม่ตนขอฝากแนวคิดนี้เอาไว้
โดยนายกรัฐมนตรี ยังมองว่า ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาค่อนข้างปันผวน ซึ่งผู้ผลิตจะเป็นผู้กำหนดราคาสินค้า ซึ่งต้องมีการถ่วงดุลซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นจะขัดแย้งกันไปอีก สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องสร้างกลไกของเราเอง ให้ครบวงจร วันนี้การค้าขายออนไลน์ก็สูงถึงร้อยละ 70 วันหน้าหักยังขายแบบตัวต่อตัวก็จะหายไปอีกเราจะสู้ไม่ไหว ตนก็เป็นห่วงผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตนอยากให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากออนไลน์ ที่เปิดอ่านดูไปดูมากันเกือบครึ่งวัน เอ็นจอยไปกับการดูที่เหมือนกันเล่นละครอยู่ ไม่เกิดประโยชน์ อย่าไปดูเลย เพียงแค่คนๆเดียวเขียน คนกลุ่มเดียวเขียนออกมา คงไม่ใช่ ตนว่า เราคิดเอง
นายกรัฐมนตรี ยังฝากศอ.บต.ดูเรื่องการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ของ จุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจริงๆแล้วมีอยู่แล้วแต่จะส่งเสริมอย่างไรไม่ต้องทำใหม่ ถ้าเรียนมาแล้วไม่มีงานทำไม่รู้จะเรียนไปทำไม นอกจากนี้ในเร็วๆนี้จะมีการ ประสานเรื่องแรงงานในกลุ่มมุสลิม ซึ่งต่างประเทศต้องการรายงานในกลุ่มประเภทหมอ พยาบาล แล้ววันนี้กระทรวงแรงงานก็พยายามจัดหางานมากขึ้น คนที่จะไปทำงานต่างประเทศก็อยากให้เขาหลอกก็แล้วกัน เราก็ไปช่วยมาทุกที่ ส่วนใหญ่บางคนไม่ซื่อ คนเลวก็คือเลว ไม่กลับตัวกลับใจเสียที
ยก ชาติ ศาสนา กษัตริย์ เป็น Soft Power
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ถามประชาชนว่า ประเทศไทยมีกำลังทหารเท่าสหรัฐอเมริกาหรือไม่ เรามีนิดนึงของเขา แต่เรามีอะไรที่ยิ่งใหญ่ คือวัฒนธรรม และสิ่งที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมอัตลักษณ์ คือความเป็นชาติ ความมีศาสนาที่หลากหลาย และสถาบันพระมหากษัตริย์ นี่คือ Soft Power ของเรา ซึ่งต้องทำให้ทุกคนยอมรับว่าประเทศไทยมีความสุขได้ทุกวันนี้เพราะสิ่งเหล่านี้ เราจะใช้แต่กำลังไม่ได้ พอเกิดปัญหาแล้ววันหน้าก็จะมีคนเข้ามาแสวงหาประโยชน์ อย่าทำให้เกิดขึ้น เพราะจะมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ กับเรื่องความขัดแย้งต่างๆทั้งปวง นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับใคร พร้อมกับระบุว่าไม่มีสักวันที่พระองค์จะทรงทิ้งพวกเรา จึงทำให้เราเป็นชาติมาได้ถึงทุกวันนี้ หากเราไม่มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะไปไหนแล้วก็ไม่รู้ วันนี้จะไปอยู่กับใครก็ไม่รู้
นอกจากนี้ ตนยังมีแนวคิดว่าจะหาเส้นทางใหม่มายังภาคใต้ได้หรือไม่ แต่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อน เพราะพื้นที่แคบอยู่แล้ว ตรงด้ามขวานเรียวลงไป วันนี้มีอยู่เส้นเดียว จะต้องใช้วิธีการอ้อมผ่าน ในจุดที่การจราจรคับคั่ง แต่ประชาชนจะยอมหรือไม่ตนไม่รู้ หากทำประชาพิจารณ์ไม่ผ่านก็ไม่ได้สร้าง ขอให้โครงการนั้นดีอย่างไรก็ตามแต่หากประชาชนไม่เห็นชอบก็ต้องตีตก ฝืนทำไม่ได้อยู่แล้ว ต้องเข้าใจว่ากฎหมายมันมีอยู่ อย่าทำอะไรที่ไม่ระมัดระวังก็แล้วกัน
ถอนหายใจ ครวญเหนื่อยหลายเรื่อง ย้ำเคารพในเสียงประชาชน
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ถอนหายใจพร้อมกับระบุว่า เหนื่อย เหนื่อยอย่างอื่นด้วย มีหลายเรื่อง ประเทศไทยมีคน 70 ล้านคนโดยรวม 70 ล้านความคิด ตนมีหน้าที่ทำให้ 70 ล้านคน ร่วมมือกันไปอย่างไร คนที่ยังไม่ร่วมมือ จะคิดตามมาได้หรือไม่ ตนบังคับใครไม่ได้ในประชาธิปไตย ที่ตนพูดมีอะไรผิดหรือไม่ แต่มันทำยากใช่หรือไม่ นี่คือทำยากที่สุดเพราะหากทำง่ายคงจบไปแล้วในหลายรัฐบาล แต่วันนี้ก็ทำไว้เยอะแล้วเรื่องการปูพื้นฐาน การคมนาคมการสื่อสาร 5G ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า นี่คืออนาคตของลูกหลานในวันข้างหน้า และรัฐบาล เป็นคนทำมาใน 2 รัฐบาลที่ตนอยู่ตรงนี้ ไม่เคยหยุดคิดไม่เคยหยุดทำ แต่ที่ทำในเวลาเพียงเท่านี้ทำได้แค่นี้ หากทำมาแล้วก่อนหน้าเยอะตนคงไม่ต้องทำขนาดนี้
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนไม่โทษใครโทษใครไม่ได้ ต้องเคารพในเสียงของประชาชน พร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง ขอให้ทุกคนมีความฝันร่วมกันได้หรือไม่ ฝันในสิ่งที่ดี หากเจอหน้าแล้วทะเลาะกันคงไม่น่ารัก โกรธกันไปก็เท่านั้น ไม่เอาแล้ว ภรรยาก็ยิ้มหวานใส่สามี จะโกรธจะเคืองอะไรก็ขอให้ยิ้มไว้ก่อน สามีก็ดูแลครอบครัวให้ดีก็แล้วกัน ก่อนที่จะกล่าวแซวประชาชนว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือแคลเซียมคนภาคใต้มีลูกเยอะฟันจะเสียไหม ลูกเอาแคลเซียมไปใช้เยอะ จริงๆ อย่ามาหัวเราะ ลูกเยอะแม่ก็ไปหมด ฟันก็เริ่มร่วงไปเรื่อยๆเพราะขาดแคลเซียม
โทษโควิด ทำจัดเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า อย่าไปกลัวโอไมครอน
วันนี้ตนมีความสุขจริงๆเพราะโอกาสที่ตนจะเดินทางมาภาคใต้ ไม่ค่อยเยอะมาก แต่ถึงไม่มาก็ติดตามให้มากที่สุดผ่านกลไกที่มีอยู่และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปด้วย มีอะไรก็บอกกันส่งข่าวถึงนายกได้ ค่ะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล เขียนจดหมายถึงก็ได้ แต่จดหมายรักไม่ต้อง ตนพูดแหย่เล่น นายกก็ชอบพูดเล่นกับทุกคน ขออย่าถือสาเลย ต้องการให้บรรยากาศนั้นคลี่คลาย ไม่ใช่มานั่งเครียดตัวตรง เรียนหนังสือนี่ไม่ใช่ตน
ก่อนที่จะมีประชาชน ตะโกนถามนายกรัฐมนตรี กรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรีจึง ตอบกลับไปว่า "ก็ต้องมีต่อไปเรื่อยๆแหละจ๊ะ" ต้องทยอยให้ทีละงวด และเติมของเก่าเข้าไปอีก ซึ่งรายได้ก็มาจากภาษีนู้นนี่ ภาษีปีนี้ก็เก็บได้ต่ำกว่าเป้า ซึ่งไม่ใช่ความผิดของใคร เพราะโควิด-19 เข้ามาด้วย ลดนู่นลดนี่เข้ามาแต่ต้นทุนเท่าเดิม เพราะฉะนั้นคนใช้หนี้คือรัฐบาล ไปจะทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด
นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชม ศบค.ส่วนหน้า การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ซึ่งต้องอาศัยการฉีดวัคซีน ใครยังไม่เสร็จขอให้ยกมือขึ้น 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ แล้วอีก 40% ไปไหน ความจำว่าต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม อย่าไปกลัวจะโอไมครอน เหลืออีกกี่เชื้อก็จะมาไม่รู้เหมือนกัน แต่สาธารณสุขก็ยืนยันแล้วและเมื่อวานตนก็ได้คุยกับต่างประเทศ หากทุกวันฉีดวัคซีนก็จะลดความเสี่ยงด้วยความรุนแรงถึงเสียชีวิต นี่คือหลักฐานที่ทุกบริษัทคิดอย่างนี้หมด ใส่หน้ากากใต้คางแล้วคุยกันทั้งวัน แล้วใส่ไปทำไม หายใจไม่ออกแล้วติดเชื้อโควิคจะว่าอย่างไร คนก็พูดเหนื่อยใส่หน้ากากอยู่ พูดทั้งวัน
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ให้รู้ว่าการมาวันนี้เพราะนายกคิดถึง คิดถึงจังฮู้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินไปทักทายประชาชนพร้อมกับระบบว่า ขอให้ทุกคนเข้าใจนายกต้องการกำลังใจเท่านั้น ขอให้เปิดใจ
นายกฯ ขอบคุณชาวจะนะเลิกชุมนุม
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นยุติการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลและเดินทางกลับ หลังพอใจต่อมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในการแก้ไขปัญหานิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่ให้ชะลอโครงการออกไป ว่า ตนทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางกลับแล้วในขณะนี้ โดยรัฐบาลจัดรถส่งกลับพื้นที่โดยสวัสดิภาพ กำลังเดินทางอยู่
นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณทุกคน และขอบคุณชาวจะนะด้วย ทั้งกลุ่มเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อย่างไรก็คือคนไทยขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน ว่าขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และโปร่งใสตามหลักข้อกฎหมายทุกประการ