นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี และห้ามไปยุ่งเกี่ยวในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่นั้น
เนื่องจากตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ ระบุไว้ชัดเจนว่าพรรคอนาคตใหม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นตาม ม.66 โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตาม ม.72 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ทำการฝ่าฝืน ม.72 อันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตาม ม.92 วรรคสอง ประกอบ ม.92 วรรคหนึ่ง (3)
ดังนั้น จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม. 124 ที่กำหนดให้เอาผิด ผู้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น 5 ปี และมาตรา 125 ที่กำหนดเอาผิดพรรคการเมืองที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น 5 ปี และให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองด้วย
นอกจากนั้น กรณีที่พรรคอนาคตใหม่มีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตาม ม.87 ไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับธนาธร โดย ม.132 กำหนดโทษไว้ว่าหากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรคผู้ใดนำเงินหรือยินยอมให้บุคคลนำเงิน ทรัพย์สินของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น หรือนำไปใช้เพื่อการอื่นอันเป็นการฝ่าฝืน ม. 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000 - 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยที่การดำเนินคดีอาญานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ในคำวินิจฉัยด้วยว่าการดำเนินคดีอาญากับนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่นั้น เสร็จสิ้นจากคณะกรรมการไต่สวนฯ ของ กกต.แล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องเดินทางไปจี้ให้ กกต. เร่งดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเร็ว เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานต่อนักการเมืองต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นเรื่องในวันที่ 24 ก.พ. 2563 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B หลักสี่ กทม.