เว็บไซต์ดีเฟนซ์วันรายงานว่าตู้เย็นบนเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ 'เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน' มีทั้งหมด 5 ยูนิต และรัฐบาลชุดปัจจุบันได้อนุมัติคำสั่งให้เปลี่ยนตู้เย็น 2 ยูนิต เนื่องจากระบบทำความเย็นที่ใช้อยู่เป็นรุ่นเก่าซึ่งถูกติดตั้งมาพร้อมเครื่องบินที่เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) เป็นต้นมา ทำให้ระบบตู้เย็นไม่เสถียร และต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อเตรียมรองรับการใช้งานที่เหมาะสมในอนาคต
ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ รายงานว่าค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนและตรวจสอบการทำงานของระบบตู้เย็นบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ใช้งบประมาณทั้งหมด 23.6 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 736.1 ล้านบาท ซึ่งจัดสรรมาจากเงินภาษีประชาชน
วอชิงตันโพสต์รายงานด้วยว่าก่อนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาเคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเสนอให้จัดซื้อจัดหาเครื่องบินโบอิงเพิ่มอีก 2 ลำเพื่อเป็นเครื่องบินสำหรับประธานาธิบดีคนถัดไป คิดเป็นเงินราว 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 136,000 ล้านบาท) แต่นายทรัมป์ไม่เห็นด้วยและได้ทวีตข้อความให้รัฐบาลในยุคนั้น 'ยกเลิกคำสั่งซื้อไปซะ'
Boeing is building a brand new 747 Air Force One for future presidents, but costs are out of control, more than $4 billion. Cancel order!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) December 6, 2016
ด้านแอนน์ สเตฟาเน็ก โฆษกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ส่งจดหมายชี้แจงถึงวอชิงตันโพสต์ โดยระบุว่าปัจจุบันตู้เย็นบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเก็บอาหารพร้อมรับประทานได้เพียง 100 ชุดเท่านั้น และเมื่อประธานาธิบดีเดินทางไปยังภูมิภาคที่มีอากาศร้อน จำเป็นต้องใช้เครื่องที่คงความเย็นได้ในระยะยาวกว่าระบบเดิม
เว็บไซต์เดอะฮิลล์ สื่อสายการเมืองของสหรัฐฯ รายงานอ้างอิงคำพูดของนายริชาร์ด อะบูเฟเลีย ที่ปรึกษาอาวุโสของ ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่าการพัฒนาระบบทำความเย็นบนเครื่องบินคือเรื่องจำเป็น และกองทัพอากาศซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเครื่องแอร์ฟอร์ซวันระบุว่าตู้เย็นบนเครื่องบินควรเก็บอาหารพร้อมรับประทานให้ได้ประมาณ 3,000 ชุด เพื่อที่เครื่องบินจะได้ไม่ต้องแวะจอดเติมเสบียงในแต่ละการเดินทาง
ส่วนงบประมาณ 23.6 ล้านดอลลาร์นั้นเป็นราคาที่เหมาะสม เพราะระบบตู้เย็นบนเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นย่อมแตกต่างจากตู้เย็นที่ใช้ในครัวเรือน ทั้งยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจทั้งความปลอดภัยและความคุ้มค่า พร้อมทั้งยืนยันว่าการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์หรือทำให้ใครร่ำรวยขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม นายอีริก ชูลท์ซ ที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีโอบามา ทวีตลิงค์ข่าวเรื่องราคาตู้เย็นบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันในสมัย ปธน.ทรัมป์ พร้อมข้อความว่า "ถ้าพวกเราทำแบบนี้บ้าง คงจะถูกถอดถอนไปแล้ว"
we would have been impeached https://t.co/KdF82dEseH
— Eric Schultz (@EricSchultz) January 26, 2018
อ่านเพิ่มเติม: