ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาล ผนึกกำลัง 9 องค์กรเอกชนประกาศคว้าลิขสิทธิ์ "ถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018" ครบทั้ง 64 แมตช์ให้แฟนบอลชาวไทยได้ติดตามกันจุใจ

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าว "ประเทศไทยเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018" ซึ่งจะจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม 2561 ที่ประเทศรัสเซีย

โดยความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างภาครัฐบาล นำโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยภาคเอกชน 9 องค์กร ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด

S__229146628.jpg

พลเอกประวิตร กล่าวว่า ในฐานะรัฐบาล ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบว่า ขณะนี้การเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผ่านทาง บริษัท อินฟรอนท์ สปอร์ต แอนด์ มีเดีย ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในภูมิภาคเอเชีย ได้สำเร็จเรียบร้อย ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้การเซ็นสัญญาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะภาครัฐที่เป็นผู้ริเริ่มนโยบาย และเป็นคนกลางคอยประสานงาน รวมถึงภาคเอกชนทั้ง 9 องค์กร ที่ร่วมแรงร่วมใจ และร่วมลงทุนในครั้งนี้

โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง24, อัมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 และช่อง 5 (กด หมายเลข 1) ทั้งนี้ขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจได้ว่า จะได้สนุกและมีความสุขกับการรับชมมหกรรมฟุตบอลโลกในปีนี้ฟรี ครบทั้ง 64 แมตช์อย่างแน่นอน

สำหรับ 32 ทีมที่ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 มีดังนี้ กลุ่ม A : รัสเซีย(เจ้าภาพ) , ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์, อุรุกวัย ,กลุ่ม B : โปรตุเกส, สเปน, โมร็อคโก, อิหร่าน , กลุ่ม C : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เปรู, เดนมาร์ค , กลุ่ม D : อาร์เจนตินา, ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย, ไนจีเรีย

กลุ่ม E : บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริก้า, เซอร์เบีย , กลุ่ม F เยอรมนี (แชมป์เก่า), เม็กซิโก, สวีเดน, เกาหลีใต้ , กลุ่ม G : เบลเยียม, ปานามา, ตูนิเซีย, อังกฤษ , กลุ่ม H : โปแลนด์, เซเนกัล, โคลอมเบีย, ญี่ปุ่น โดยคู่เปิดสนามคือเกมระหว่าง รัสเซีย พบกับ ซาอุดีอาระเบีย ที่ลุซนิกี้ สเตเดี้ยม