นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยอมรับว่า การสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่จะมีความลำบากมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่มาสมัครจะมีความกังวลกับคุณสมบัติมากขึ้น หลัง สนช. มีมติโหวตคว่ำว่าที่ กกต. ทั้ง 7 คนเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการสรรรหาจะต้องทำงานเชิงรุกด้วยการชี้แจง และเชิญชวนผ่านสื่อมวลชนในเรื่องคุณสมบัติการรับสมัคร เพื่อให้ผู้เข้ารับการสรรหาเข้าใจ เนื่องจากมีเวลาค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการทาบทามแน่นอน
ทั้งนี้ นายพรเพชร ชี้แจงว่า คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนการตรวจสอบจริยธรรมและความประพฤติเป็นหน้ของ สนช. ซึ่งทำหน้าที่แทนวุฒิสภา ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายเวลาการเปิดรับสมัคร แต่จะกระชับเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติให้เร็วขึ้น และอยู่ภายใต้กรอบเวลา 90 วันตามกฎหมาย
ส่วนการรับสมัครเลขาธิการ กกต. ขณะนี้มีผู้มาสมัครแล้ว 4 คนคือ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตเลขาธิการศาลปกครอง , พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.รักษาการเลขา กกต. , นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. และนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยจะปิดรับสมัครวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
โดยคุณสมบัติของเลขาธิการ กกต. ต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีอายุไม่เกิน 60 ปี ในวันที่ได้รับแต่งตั้งและดำรงตำแหน่งได้อายุไม่เกิน 65 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอันจะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติงาน ของสำนักงาน มีอำนาจหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน ควบคุมดูแลการปฎิบัติงานโดยทั่วไปให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบประกาศและมติของ กกต. โดยขึ้นตรงต่อ กกต. มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี สามารถดำรงตำแหน่งได้สองวาระ