หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ เปิดเผยว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมเตรียมจัดการสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของประเทศ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุดทำเนียบขาวก็ออกมายืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง โดยวอชิงตันโพสต์รายงานว่านายทรัมป์อาจได้ไอเดียมาจากการไปร่วมการเฉลิมฉลองวันบาสตีญ์ หรือวันชาติฝรั่งเศสเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการจัดพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่อลังการ และนายทรัมป์ได้ไปร่วมงานในฐานะที่ปี 2017 ที่ผ่านมาเป็นวาระครบรอบ 100 ปีที่สหรัฐฯเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี 1917 โดยการสวนสนามดังกล่าวมีทั้งการเดินขบวนของทหารบนถนนฌ็องเซลิเซ และมีทั้งทหารม้า เครื่องบิน รวมถึงยานพาหนะทางทหารอื่นๆประกอบขบวน

ทำเนียบขาวยังกล่าวอีกด้วยว่าขณะนี้แผนการดังกล่าวยังอยู่ในขั้น "ระดมสมอง" แต่นายทรัมป์ได้ร้องขอไปยังกระทรวงกลาโหมให้มีการจัดสวนสนามตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา  

โดยปกติแล้ว การสวนสนามเป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่นิยมในสหรัฐฯและกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ตามธรรมเนียมจะมีการสวนสนามในกรุงวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีวาระสิ้นสุดสงครามครั้งใหญ่เท่านั้น โดยการสวนสนามครั้งล่าสุดในสหรัฐฯมีขึ้นเมื่อปี 1991 หรือเมื่อ 27 ปีที่แล้ว เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดสงครามอ่าวเปอร์เซีย

การตัดสินใจสั่งให้มีการสวนสนามโดยไม่มีวาระสำคัญใดๆ จึงถูกมองว่าเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย และทำให้ประเทศมีภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม โดยนายจิม แมคกอเวิร์น ส.ส.พรรคเดโมแครต ทวีตข้อความระบุว่านี่เป็นการใช้เงินสิ้นเปลืองอย่างไร้สาระที่สุด และทรัมป์กำลังทำตัวเหมือนเผด็จการมากกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่หนึ่งในคณะกรรมาธิการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ถึงกับกล่าวว่าทรัมป์กำลังทำตัวเป็นจักรพรรดินโปเลียน เผด็จการทหารชื่อดังของฝรั่งเศส พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกคนต่อต้านพฤติกรรมชอบโชว์ของนายทรัมป์ ซึ่งขัดต่อหลักปฏิบัติของนักการเมืองอเมริกันทั่วไป

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษระบุว่าการสวนสนามไม่ใช่สิ่งปกติในประเทศตะวันตก และส่วนใหญ่การจัดงานเช่นนี้มักจะเป็นเรื่องของประเทศเผด็จการอย่างเกาหลีเหนือมากกว่า นอกจากนีบีบีซียังได้สัมภาษณ์พลโทมาร์ค เฮิร์ทลิง นายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ซึ่งยอมรับว่าทหารไม่ได้ชอบกิจกรรมแบบนี้ แม้จะจำเป็นต้องทำตามคำสั่งประธานาธิบดี พร้อมทั้งย้ำว่าการเดินแถวโชว์ความผึ่งผายมากกว่าศักยภาพทางการทหารไม่ใช่วัฒนธรรมของกองทัพอเมริกัน