สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลไทย เนื่องในวันที่ 21 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น 'วันสันติภาพสากล' โดยมีข้อเสนอดังนี้

1. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นกฎหมายที่เอื้อต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและหล่อเลี้ยงวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด ลดเงื่อนไขความหวาดกลัว และเพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงทางการเมืองอย่างเสรี 

2. ขอให้พรรคการเมืองต่างๆ ร่วมผลักดันให้การเจรจาสันติภาพปาตานี เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสะท้อนเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาลอย่างแท้จริง

3. ขอให้มาเลเซียทบทวนการแต่งตั้งผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยคนใหม่ เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเอื้ออำนวยให้เกิดกระบวนการเจรจาสันติภาพ ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล นำไปสู่การมีคนกลางที่ได้รับการยอมรับจากคู่ขัดแย้งและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ

4. ขอให้ประชาชนไทยและประชาชนปาตานี ร่วมกันผลักดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพ ที่วางอยู่บนฐานการเคารพสิทธิทางการเมืองของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษภายใต้กฎอัยการศึกในพื้นที่ อ.หนองจิก และสนธิกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนับพันนาย เข้าปิดล้อมและตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ โดยเมื่อวานนี้(20ก.ย.) กลุ่มมาราปาตานี ได้ออกแถลงการณ์แสวงความกังวลต่อการประกาศกฎหมายพิเศษด้วย เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบและอยู่ในบรรยากาศของความหวาดกลัว และรู้สึกเหมือนถูกเหมารวมว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ชัดเจน

ขณะที่ พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่าผู้เป็นพ่อแม่ของผู้กระทำผิดจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของลูกหลานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และกำลังจะตั้งทีมกฎหมายเข้ามาดูแลให้ผู้ก่อเหตุหันมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ส่วนพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ยังคงเป็น 'พื้นที่ควบคุมพิเศษ' และจะยังคงมีเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายปฏิบัติภารกิจเชิงรุกในพื้นที่ต่อไป

อ่านเพิ่มเติม

• จี้ กอ.รมน. เลิกใช้กฎหมายพิเศษ คุมพื้นที่หนองจิก จ.ปัตตานี