กระทรวงยุติธรรมของฝรั่งเศสประกาศว่า เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 16 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่นของฝรั่งเศส เฟลิเซียน คาบูกา ชายวัย 84 ปีที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในรวันดาถูกจับกุมแล้วใกล้กับกรุงปารีส ที่เขากบดานในแฟลต โดยมีลูกๆ คอยช่วยเหลือเซ็ตระบบปกปิดตัวตนของเขา
และคาบูกาเป็นนักธุรกิจชาวฮูตู เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ให้เงินทุนคนสำคัญของกลุ่มสุดโต่งเชื้อสายฮูตู และจ่ายเงินให้กับกลุ่มติดอาวุธไปก่อเหตุสังหารหมู่อย่างโหดร้ายด้วยมีด ไม้และอาวุธต่างๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 800,000 รายในช่วง 3 เดือนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 2537 โดยมุ่งเป้าโจมตีไปที่คนกลุ่มน้อยตุตซี่และชาวฮูตูทั่วๆ ไป นอกจากนี้เขายังก่อตั้งและให้ทุนช่องวิทยุและโทรทัศน์ RTLM ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยุยงให้คนค้นหาและสังหารใครก็ตามที่เป็นชาวตุตซี
คาบูกาถูกตั้งข้อหา 7 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ให้การสนับสนุนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุยงโดยตรงและเปิดเผยให้คนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สมรู้ร่วมคิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การกดขี่และการทำลายล้าง
การจับกุมตัวคาบูกาบริเวณชานกรุงปารีสขณะที่เขาใช้ชื่อปลอมถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากเพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการสันนิษฐานว่าเขาอาศัยอยู่ในเคนย่าซึ่งมีนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางความพยายามในการจับกุมตัวเขา
แม้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จะสิ้นสุดลงไปหลายทศวรรษแล้ว แต่คาบูกาต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายของฝรั่งเศสก่อนจะถูกส่งตัวไปที่กรุงเฮก เพื่อดำเนินคดีในกลไกที่เหลืออยู่สำหรับศาลคดีอาญาระหว่างประเทศ (IRMCT)
เซอร์เก บรามเมิร์ตซ อัยการสูงสุดของ IRMCT กล่าวว่าการจับกุมคาบูกาเป็นเครื่องเตืนใจว่า คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ถูกดำมาดำเนินคดีได้ แม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 26 ปี และการจับกุมครั้งนี้สำเร็จได้เมื่อได้รับการสนับสนุนจากประชาคมโลก
บรามเมิร์ตซได้กล่าวชื่นชมฝรั่งเศสที่ช่วยจับกุมคาบูกาได้ และยังขอบคุณความร่วมมือจากรวันดา อังกฤษ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ และอินเตอร์โพลด้วย โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เสนอเงินรางวัลกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่ช่วยนำจับคาบูกาไว้ถึง 5 ล้านดอลลาร์หรือราว 30 ล้านบาท
ด้านวาเลอรี มูคาบาเยียร์ ผู้นำสมาคมแม่หม้ายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวัดากล่าวว่า ผู้ที่รอกชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทุกคนมีความสุขที่ได้เห็นคาบูกาถูกจับกุม และยังเหลืออีกสองคนที่กำลังอยู่ในการหลบหนีการดำเนินคดีโดยคณะตุลาการอาญาระหว่างประเทศสำหรับรวันดา ได้แก่ โพรไทส์ มพิรันยา และออกัสติน บิซิมานา
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2537 เครื่องบินของจูเวนัล ฮาเบียริมานา ประธานาธิบดีรวันดาสมัยนั้นที่เป็นชาวฮูตู ถูกยิงตก ทำให้ทุกคนบนเครื่องบินลำนั้นเสียชีวิตทั้งหมด กลุ่มสุดโต่งฮูตูกล่าวหาว่า กลุ่มแนวหน้าชาตินิยมรวันดา (RPF) กลุ่มกบฏชาวตุตซีเป็นผู้ยิงเครื่องบิน แต่ RPF ปฏิเสธข้อกว่าหานั้น จากนั้นก็มีแคมเปญส่งเสริมให้ฆ่าชาวตุตซี โดยคาบูกาถูกกล่าวหาว่ามีการตั้งหน่วย Interahamwe ที่ทำหน้าที่ปิดถนนค้นหาชาวตุตซี ค้นบ้านต่างๆ อีกทั้งยังยุยงปลุกปั่นความเกลียดชังผ่านทางวิทยุ
ต่อมา RPF ที่ได้รับสนับสนุนจากยูกันดาก็เริ่มรุกพื้นที่ต่างๆ ทำให้ชาวฮูตูต้องอพยพออกจากพื้นที่กว่า 2 ล้านคน โดยส่วนใหญ่ลี้ภัยไปที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกหรือ ดีอาร์คองโก และ RPF ก็ถูกกล่าวหาว่าเมื่อยึดครองอำนาจแล้วก็สังหารชาวฮูตูไปหลายพันคน แต่ RPF ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหา
ชาวฮูตูหลายคนถูกศาลอาญาระหว่างประเทศสำหรับรวันดาตั้งข้อหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และยังมีอีกหลายแสนคนที่ถูกดำเนินคดีในศาลท้องถิ่นในรวันดา
https://www.bbc.com/news/world-africa-52690464