นายชวน นริน ผู้ว่าการตำรวจจังหวัดพระสีหนุวิลล์กล่าวว่า "ปัจจุบันจังหวัดพระสีหนุวิลล์มีการลงุทนจากต่างชาติมากที่สุดโดยเฉพาะนักลงทุนจากจีน ส่งให้ธุรกิจประเภทโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ กาสิโน ร้านอาหารและธุรกิจอื่นๆ มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว"

ปัจจุบันในจังหวัดพระสีหนุวิลล์มีโรงแรมและบ้านพักรูปแบบเกสต์เฮ้าส์ทั้งสิ้น 156 แห่งและ 150 แห่งเป็นธุรกิจที่ดำเนินโดยคนจีน ขณะที่กาสิโน 48 แห่งจาก 62 แห่งในจังหวัดก็เป็นธุรกิจของคนจีน

นายนรินยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ร้านอาหาร 95 เปอร์เซ็นต์จาก 436 ร้านก็เป็นของคนจีน และยังมีร้านคาราโอเกะอีก 41 แห่งรวมไปถึงร้านนวดแผนโบราณที่มีเจ้าของกิจการเป็นคนจีนอีกด้วย

สื่อกัมพูชาระบุว่า นับตั้งแต่การไหลบ่าเข้ามาของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดพระสีหนุนั้นพุ่งสูงขึ้น ซึ่งคนท้องถิ่นในจังหวัดได้รับประโยชน์จากการซื้อขายและการปล่อยเช่าที่ดินให้แก่นักลงทุน

ขณะที่ข้อมูลราคาที่ดินในจังหวัดพระสีหนุวิลล์ระบุว่า ราคาที่ดินในครึ่งปีแรกของสีหนุวิลล์เพิ่มขึ้นถึง 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ทางด้านนายธรณ์ สีนัน ประธานสมาคมท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิกกล่าวกับสื่อกัมพูชาว่า "ไม่ควรมีตลาดไหนที่มีการลงทุนมากกว่าครึ่งหนึ่งโดยนักลงทุนจากประเทศเดียว ซึ่งจะทำให้สูญเสียสมดุลการพัฒนาและการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีในระยะยาว"

นายสีนันยังกล่าวว่า การเติบโตของภาคการลงทุนและการไหลบ่าเข้ามาของคนจีนเป็นการท้าทายการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในกัมพูชา เช่น การสูญเสียอัตลักษณ์แห่งชาติ โอกาสในการจ่้างงานของคนท้องถิ่น ปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนภายในประเทศ รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสังคมต่างๆที่จะตามมา

เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในจังหวัดพระสีหนุวิลล์ ตึกอาคารก่อสร้างของนักลงทุนจีนได้ถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้างส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และบาดเจ็บกว่า 20 กว่าคน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า การก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่มีใบขออนุญาตในการก่อสร้างจากทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด 

จังหวัดพระสีหนุวิลล์เป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจของกัมพูชา ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ โดยมีนักท่องเที่ยวหลัก คือ ชาวจีน

ที่มา phnompenhpost / RFA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กัมพูชาฟ้องทุนจีน เหตุโรงแรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษถล่มทับคนงานดับนับสิบ