ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าการชุมนุมต่อต้านนโยบายดังกล่าวในกลุ่มประเทศมุสลิมจะยุติลง รัฐบาลอิสราเอลจึงได้เตรียมทูลเชิญเจ้าชายซาอุดีอาระเบียมาเยือน เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาและส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง

เว็บไซต์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษ รายงานว่านายยิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีหน่วยข่าวกรองแห่งอิสราเอล เตรียมทูลเชิญเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ให้เสด็จเยือนอิสราเอลอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือกันเรื่องกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมรับรองให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ด้วย สร้างความไม่พอใจต่อชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมในหลายพื้นที่ทั่วโลก

นายคาตซ์ระบุว่าการเสด็จเยือนอิสราเอลของเจ้าชายบิน ซัลมาน จะเป็นการแลกเปลี่ยนความเข้าใจระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียไม่มีการสานความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีพิเศษและเร่งด่วน จำเป็นต้องหาทางออกที่เหมาะสมเพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ จึงต้องอาศัยความร่วมมือของซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลในกลุ่มประเทศมุสลิม และนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล มีความยินดีที่จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียหากได้รับเชิญ และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียในการจัดการกับอิหร่าน ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับทั้งสองประเทศด้วย

AP17345398863384.jpg

(มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย อาจเสด็จเยือนอิสราเอล)

ทั้งนี้ การประกาศรับรองนครเยรูซาเลมของนายทรัมป์ทำให้เกิดการลุกฮือต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา และมีการรวมตัวกันในวันศุกร์ของทั้งสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในฐานะวันแห่งความเดือดดาล ทำให้มีการปะทะเกิดขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงของอิสราเอล ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

ขณะที่ชาวมุสลิมในอีกหลายประเทศต่างก็รวมตัวกันคัดค้านคำประกาศของผู้นำสหรัฐฯ โดยบางกลุ่มเรียกร้องให้นายทรัมป์ยกเลิกประกาศดังกล่าว ขณะที่บางกลุ่มระบุว่านายทรัมป์ต้องประกาศรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ด้วย จึงจะสมดุลกัน โดยผู้ชุมนุมรวมตัวประท้วงในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น กรุงเบอร์ลินและเมืองแฟรงค์เฟิร์ตของเยอรมนี กรุงแอลเจียร์ของแอลจีเรีย รวมถึงกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้ร่วมชุมนุมมากที่สุดราว 80,000 คน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมพิเศษเมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม เพื่อพิจารณาข้อเสนอของอียิปต์ ที่เรียกร้องให้ยูเอ็นเอสซีลงมติคัดค้านคำประกาศรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลของผู้นำสหรัฐฯ และต้องลงมติว่าคำประกาศดังกล่าวขัดต่อหลักการส่งเสริมสันติภาพของยูเอ็น ไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย และไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ

การลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นต่อข้อเสนอของอียิปต์จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 18 ธันวาคมนี้ โดยตัวแทนของ 15 ประเทศที่เป็นสมาชิกยูเอ็นเอสซีต้องลงคะแนนคัดค้านคำประกาศของนายทรัมป์อย่างน้อยที่สุด 9 เสียง จึงจะทำให้คำประกาศเป็นโมฆะ

เรียบเรียง: ตติกานต์ เดชชพงศ