ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไปดูผลการเเข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ เลกที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ระหว่าง เปรู ตัวเเทนจากโซนอเมริกาใต้ ลงสนามเพื่อชิงตั๋วใบสุดท้ายไปเล่นที่รัสเซีย เปิดบ้านพบกับ นิวซีแลนด์ จากโซนโอชิเนีย

คู่นี้เกมเลกเเรกเสมอกันมา 0-0 เเต่เกมนี้ เปรูที่ได้เล่นในบ้านเเละประสบการณ์ดูเหนือกว่าพอสมควร เอาชนะไปได้ตามคาด 2-0 ได้ประตูจาก เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน กับ คริสเตียน รามอส ช่วยกันพาทีมเก็บชนะ รวมผล 2 นัด พวกเขาคว้าตั๋วใบสุดท้ายได้ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วยสกอร์รวม 2-0 

โดยการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งนี้ของพวกเขานับเป็นครั้งเเรกในรอบ 36 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเข้ารอบต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1982 ที่ประเทศสเปนเป็นเจ้าภาพ 

มาดูกันว่า 32 ประเทศสุดท้าย ที่ได้ไปรัสเซียมีประเทศไหนบ้าง 

เริ่มกันที่โซนใหญ่อย่าง ยุโรป ได้สิทธิ์ 14 ทีมมี รัสเซีย เจ้าภาพ ที่ได้เข้ารอบโดยอัตโนมัติ ที่เหลือเป็นเเชมป์จาก 9 กลุ่ม ประกอบด้วย อังกฤษ , สเปน , เบลเยียม , ฝรั่งเศส , โปรตุเกส , เยอรมนี , เซอร์เบีย , โปแลนด์เเละไอซ์แลนด์ ส่วนอีก 4 ทีมเป็นการนำอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 8 ทีมมาเพลย์ออฟหาผู้ชนะ ซึ่งได้เเก่ สวิตเซอร์แลนด์ , โครเอเชีย , เดนมาร์กเเละสวีเดน

โซนอเมริกาใต้ ได้สิทธ์ 4 ทีมครึ่ง มี บราซิล เเชมป์กลุ่ม อาร์เจนตินา , อุรุกวัยเเละโคลัมเบีย เเละ เปรู ที่เอาชนะนิวซีเเลนด์เข้ารอบมาได้ 

โซนคอนคาเคฟ ได้สิทธิ์ 3 ทีมครึ่ง เม็กซิโก , คอสตาริกาเเละปานามา

โซนเอเชีย ได้สิทธิ์ 4 ทีมครึ่ง มี ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , ซาอุดีอาระเบียเเละอิหร่าน ส่วน ออสเตรเลีย เพลย์ออฟเอาชนะ ฮอนดูรัส คว้าตั๋วอีกหนึ่งใบไปฟุตบอลโลก 

ปิดท้ายด้วย โซนเเอฟริกา มี เซเนกัล , ไนจีเรีย , อียิปต์ , โมร็อกโกเเละตูนีเซีย

สำหรับ ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งนี้เเละมีอันดับฟีฟ่า เเรงกิง ต่ำสุดไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ ซาอุดีอะราเบีย ตัวเเทนจากเอเชีย ในอันดับที่ 63 ซึ่งห่างกับทีมชาติไทยที่อยู่อันดับ 138 ถึง 75 อันดับ ส่วนทีมที่เหลือ ไม่มีใครที่อันดับต่ำกว่า 63 แม้แต่ทีมชาติไอซ์เเลนด์ ตัวเเทนจากยุโรป ที่เป็นประเทศที่เล็กที่สุดที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกโดยมีประชากรเพียง 300,000 คน ยังรั้งถึงอันดับที่ 21 ในฟีฟ่า เเรงกิง