ไม่พบผลการค้นหา
หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่ค้ากับสหรัฐฯ พร้อมใจกันออกแถลงการณ์ตำหนินายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เซ็นคำสั่งขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากต่างประเทศ

หลังจากที่ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีก 15 วันข้างหน้า ก็มีเสียงตำหนิติเตียนออกมาจากรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกที่บอกว่าการกระทำเช่นนี้จะนำไปสู่การทำสงครามการค้าและไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไหน แม้แต่สหรัฐฯก็จะต้องเสียหายหนักจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งนี้ด้วย เช่น รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศสบอกว่าการทำสงครามการค้าแบบนี้ สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครเป็นผู้ชนะ ทุกคนจะเป็นผู้แพ้เหมือนกันหมด

atr05.jpg

ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีนก็บอกว่ามาตรการแบบนี้ถือเป็นการโจมตีระบบการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจีนจะเร่งประเมินผลเสียที่จะได้รับจากการขึ้นภาษีครั้งนี้ และจะมีมาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของจีนที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ญี่ปุ่นก็ออกมาบอกว่าการขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯแน่นอน ส่วนเกาหลีใต้ที่เป็นประเทศที่ส่งออกเหล็กไปสหรัฐฯมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากแคนาดา และบราซิล ก็บอกว่าการกระทำแบบนี้ถือว่าเป็นการกีดกันการค้าที่มีแต่ผลเสียต่อทุกประเทศ และจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO

แต่ก็ไม่ใช่ว่าสหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากทุกประเทศ แคนาดาและเม็กซิโกเป็นสองประเทศที่ได้รับการยกเว้น เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงทางการค้าของอเมริกาเหนือหรือนาฟตาอยู่ และทรัมป์ระบุว่าจะพยายามยืดหยุ่นการขึ้นภาษีกับแต่ละประเทศให้มากที่สุด ซึ่งสหรัฐฯจะพิจารณาว่าประเทศไหนที่คบหากับสหรัฐฯโดยไม่เอาเปรียบก็จะได้รับการลดหย่อนภาษี แต่สำหรับประเทศที่ปฏิบัติกับสหรัฐฯอย่างไม่เป็นธรรมก็จะไม่ได้รับการยกเว้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้สหภาพยุโรปและออสเตรเลียออกมาบอกว่าพวกเขาสมควรได้รับการยกเว้นภาษี เพราะว่าเป็นพันธมิตรที่ดีกับสหรัฐฯมาโดยตลอด


AP18067725947864.jpg

ในวันเดียวกันนี้ ที่กรุงซานติอาโกของชิลี ก็มีการลงนามความร่วมมือการค้าระหว่าง 11 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเคยเป็นชาติภาคีของความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ก่อนที่สหรัฐฯจะถอนตัวออกไปในยุคของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เลยมีการเปลี่ยนชื่อข้อตกลงจาก TPP มาเป็น CPTPP ซึ่งหมายถึงความตกลงแบบรวบยอดว่าด้วยหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก แล้วสมาชิกทั้ง 11 ประเทศก็ได้ลงนามในข้อตกลงนี้เรียบร้อยแล้ว 

ข้อตกลงใหม่นี้มีสาระสำคัญคือการขจัดกำแพงภาษีระหว่างชาติภาคี รวมถึงลดการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลงให้มากที่สุด โดยเฉพาะกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องธุรกิจภายในประเทศ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนของ 11 ประเทศเหล่านี้ในการต่อต้านการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ 

ภาพ: AP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์ไม่สนคำเตือน ลงนามขึ้นภาษีเหล็กแล้ว

11 ประเทศเอเชียแปซิฟิกจับมือคืนชีพ TPP