นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และอลูมิเนียมร้อยละ 10 ในสัปดาห์หน้า ตามที่บริษัทเหล็กและอลูมิเนียมสหรัฐฯ ต้องการ โดยนายทรัมป์ระบุว่ามาตรการนี้จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจา��นโยบายที่ย่ำแย่และการค้าที่ไม่เป็นธรรมมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการเก็บภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือเก็บภาษีเต็มจำนวนในทันที
หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศตั้งกำแพงภาษีก็ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงทันที ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมในสหรัฐฯ เองก็วิพากษ์วิจารณ์มาตรการนี้ว่าการตั้งกำแพงภาษีจะทำให้แรงงานจำนวนมากต้องตกงานและจะทำให้ราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นด้วย
ภายในพรรครีพับลิกันเองก็มีความคิดเห็นต่างกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยนายพอล ไรอัน ประธานสภาคองเกรสหวังว่านายทรัมป์จะพิจารณาผลกระทบที่จะตามมาอีกครั้งและหาวิธีอื่นในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมแทนการตั้งกำแพงภาษี ขณะที่สมาชิกพรรคบางคนมองว่ามาตรการนี้เป็นการเพิ่มภาระภาษีให้กับชาวอเมริกันจำนวนมหาศาลมากกว่า
ปฏิกิริยาต่างชาติ
คู่ค้าเหล็กและอลูมิเนียมหลักๆ ของสหรัฐฯ ต่างแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการตั้งกำแพงภาษี ล่าสุด แคนาดา เม็กซิโก บราซิล และสหภาพยุโรป ประกาศว่าจะออกมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีของนายทรัมป์ โดยนายฌ็อง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป มองว่ากำแพงภาษีจะกระทบการจ้างงานหลายพันตำแหน่งของยุโรป และยุโรปจะไม่นิ่งเฉยกับมาตรการการค้าที่ไม่เป็นธรรม
ด้านสมาพันธ์อุตสาหกรรมเหล็กของเยอรมนีกล่าวว่านายทรัมป์ละเมิดกฎจององค์การการค้าโลกหรือ WTO และกำแพงภาษีนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดเหล็กของเยอรมนีอย่างมาก ส่วนบริษัทโตโยต้าระบุว่ามาตรการของสหรัฐฯ จะส่งผลเสียต่อผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทซัพพลายเออร์ และผู้บริโภคเอง
ในฐานะที่จีนเป็นประเทศส่งออกเหล็กกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโลก ก็มีแนวโน้มว่าจีนอาจหาทางตอบโต้กำแพงภาษีของสหรัฐฯ เช่นกัน แม้เหล็กของจีนจะส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยตรงค่อนข้างน้อย เนื่องจากโดนกีดกันด้วยมาตรการป้องกันการทุ่มตลาด หรือการขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมาก แต่เหล็กจำนวนมากของจีนก็ยังถูกส่งไปยังสหรัฐฯ ผ่านประเทศที่ 3 อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจากกระทรวงพาณิชย์ของจีนยืนยันว่าแม้สหรัฐฯจะนำเข้าเหล็กจากจีนมากเป็นอันดับ 1 แต่จีนสหรัฐฯไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่ของผู้ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมจีน เพราะฉะนั้นการขึ้นภาษีจึงไม่กระทบกับธุรกิจจีนมากนัก แต่ก็ยอมรับว่าท่าทีของทรัมป์เป็นการกดดันรัฐบาลจีนอย่างชัดเจน เพราะทรัมป์เลือกประกาศเรื่องนี้ในขณะที่นายหลิวเหอ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน อยู่ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯเพื่อเจรจาการค้า แต่กระทรวงพาณิชย์จีนยืนยันว่าเทคนิคขึ้นภาษีเช่นนี้ ส่งผลกระทบได้เฉพาะกับประเทศเล็กๆเท่านั้น ไม่ใช่กับจีน
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
การประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก หุ้นปรับตัวลดลงอย่างมากในภาคเช้า อย่างไรก็ตาม นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ให้ความเห็นเรื่องตลาดหุ้นไทย มองว่า การปรับฐานช่วงนี้เป็นเรื่องดี หลังตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาขึ้นมาเร็วและแรงด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนอาจจะยังไม่มั่นใจเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ส่วนการประกาศจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 ยังไม่ใช่ปัจจัยที่จะสนับสนุนตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากยังอีกไกล และยังอยู่ในโรดแมป แต่ที่ต้องติดตามคือ ปัจจัยลบภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด