นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางอัจฉราวดี ชัยสุวิรัตน์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย แถลงข่าวผลการดำเนินการทางวินัย นายทิมทอง ปัญญาอิน ข้าราชการครูโรงเรียนวัดสะพาน เขตคลองเตย โดยเปิดเผยว่า ที่ประชุมอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ ซึ่งทำหน้าที่แทนคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) ได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561 มีมติว่า พฤติกรรมของนายทิมทอง ปัญญาอิน เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานกระทำผิดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และฐานกระทำผิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียนหรือนักศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลของตนหรือไม่เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 94 วรรคสองและวรรคสามแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งกาย วาจาและจิตใจ ตามข้อ 11 ของข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติ สั่งลงโทษให้ไล่นายทิมทอง ปัญญาอิน ออกจากราชการ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2561 และมีผลบังคับให้ออกจากราชการทันที

ทั้งนี้ นายเกรียงยศ กล่าวว่า กทม. ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของโรงเรียนมาก โดยจะมีการลงพื้นที่ลุ่มตรวจโรงเรียนทุกแห่ง นอกจากความปลอดภัยแล้ว จะลงพื้นที่ติดตามเรื่องโครงการอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ผลการติดตามหลายแห่งมีการปรับปรุงคุณภาพอาหารดีขึ้น ส่วนโรงเรียนที่ยังไม่ได้มาตรฐานก็เน้นย้ำให้ปรับปรุงแก้ไข ดังนั้น อยากให้โรงเรียนปรับปรุงทันที โดยไม่ต้องรอให้ผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะถ้าลงพื้นที่แล้วพบข้อบกพร่องจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้บริหารสถานศึกษาทันที

ทั้งนี้ นายทิมทอง ปัญญาอิน เป็นครูชำนาญการสอนวิชาพละ และวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดสะพาน ย่านคลองเตย ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายในห้องลูกเสือ เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากเกิดเรื่อง องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ได้นำผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ เพื่อเอาผิดนายทิมทอง 4 ข้อหา คือ พรากผู้เยาว์, ข่มขืนกระทำชำเรา, อนาจารและทำร้ายร่างกาย โดยมีข้อมูลด้วยว่ารวมกรณีนี้มีเหยื่อกว่า 20 คน