ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ประชุมยุทธศาสตร์ชาติ โวยสื่อ "ซังกระบ๊วย" ถามแต่แบ่งเขตเลือกตั้ง ติงคนพูดสวนทางกับรัฐบาล เอาดีเข้าตัว หลังถูกเยอรมันจี้ถามเลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 5/2561 โดยมีการเฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านเพจ "สภาพัฒน์" ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมเรื่องการเลือกตั้ง ว่า ต่างประเทศคาดหวังว่าประเทศไทยจะเรียบร้อยและจัดการเลือกตั้งได้ พร้อมให้กำลังใจไทย มีแต่คนของเราพูดรวนกันไปหมด พอเห็นหนังสือพิมพ์ก็ไม่อยากจะอ่าน ไม่อยากให้สัมภาษณ์ ไม่อยากพูดและไม่อยากตอบแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าทำไมการเมืองไทยถึงเป็นแบบนี้ อัตลักษณ์ไทยแท้แบบนี้ควรต้องมีการแก้ไขกันบ้าง

ส่วนการกระจายอำนาจในประเทศไทย ขณะนี้ได้กระจายอำนาจกันอยู่แล้วทั่วประเทศและท้องถิ่นก็มีการเลือกกันเยอะแยะ นี่แหละคือการกระจายอำนาจในระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการเอางบประมาณลงไปในท้องถิ่น หรือว่าจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกันอีก แต่ตอนนี้ยืนยันว่าไม่ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในตอนนี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีความพร้อม เนื่องจากประเทศไทยไม่เหมือนกับประเทศอื่น

ขณะเดียวกันประเทศไทยก็อยากจะเหมือนสิงคโปร์ไปทุกอย่าง จนมองว่าหากให้นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มาแก้ปัญหาในไทยก็คงหงายท้องเหมือนกัน ซึ่งสิงคโปร์มีประชากรน้อยกว่าไทยและเคารพกฎหมายทั้งสิ้น ขณะที่ประเทศไทยยังมีการตีกัน เฆี่ยนกันอยู่เลย ซึ่งไม่เคยไปตีเฆี่ยนใครสักคน ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายใครสักคน 

อีกทั้งเดินทางไปทำงานต่างประเทศก็ไปทำงานตลอดไม่ได้ไปเที่ยว กลับมาก็นั่งจี้ตูดทุกเรื่อง เปิดโซเชียลมีเดียและตอบคำถามประชาชนทุกเรื่อง และถามกันอยู่เรื่องเดียวคือการแบ่งเขตการเลือกตั้ง "มียังไงก็ไม่รู้ กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วย” พร้อมกล่าวอีกว่า ทุกอย่างต้องว่าตามกติกาจะถูกหรือผิดตนไม่รู้

ส่วนตัวไม่ข้องเกี่ยวกับการแบ่งเขตเพราะการแบ่งเขตขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ที่เปลี่ยนในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หรือจะให้ติดอยู่กับพื้นที่เดิม ไม่ว่าจะปรับอย่างไร หากคนเขาไม่เลือก พรรคไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วกันประเทศไทย ตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว และหวังว่าทุกคนในห้องจะเข้าใจสิ่งที่ตนพูด คุยกับเยอรมนีแรกๆก็แข็งแต่หลังๆก็ดี ซึ่งยืนยันว่าตนจะไม่เป็นเบี้ยล่างเขา เพราะในช่วงหลังตนก็พูดในเรื่องของไทย ทีท่าของเขาดูอ่อนลงไม่แข็งกร้าว หลังๆ ก็เป็นเพื่อนกันและยอมรับตนเองได้

ทั้งนี้ ยังถูกถามว่าเป็นทหารกับเป็นนายกรัฐมนตรีมีความแตกต่างกันหรือไม่ ตนก็บอกกับทางเยอรมนีว่ามีความแตกต่างกันมาก และถามว่าเหนื่อยไหม ตนตอบว่าจะไม่ให้เหนื่อยได้อย่างไร เพราะมีปัญหาอยู่จำนวนมาก ซึ่งเยอรมนีก็ดีใจและยินดีที่ไทยจะมีการเลือกตั้ง สื่อแทนที่จะถามว่ามีความร่วมมืออย่างไรบ้าง กลับถามว่าเขาไล่ตนอย่างไรบ้าง พวกสื่อถามไม่สร้างสรรค์ ตนไม่รังเกียจแต่รู้สึกรำคาญ เป็นใครไม่รำคาญบ้าง ถามซ้ำแล้วซ้ำอีก น่าเบื่อ ทั้งนี้ได้ขอโทษที่ประชุมที่มาบ่นให้ฟัง เพราะปกติเป็นคนมีอะไรก็ชอบพูด ซึ่งอยู่ที่ทุกคนช่วยกัน

ทั้งนี้ หากประเทศไม่มียุทธศาสตร์ชาติก็จะเละเหมือนเก่า ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำงบประมาณ จัดสรรปันส่วนจนดีขึ้น แต่ก็ยังไม่พอใจิขณะที่เปิดทีวี ก็มีแต่ทนาย ไมมีตำรวจ ผิดถูกทนายเป็นคนบอก ทั้งนี้ขอไม่ให้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง หากมีคนของตนไปพูดข้างนอกใช้ไม่ได้ แต่ถ้ารู้แล้วพูดกับตน ตนรับได้ แล้วจะพูดทำไมเมื่อตัวเองทำงานกับรัฐบาลอยู่ ไม่ใช่พูดอวยเอาความดีความชอบให้ตัวเองอยู่ข้างนอก แทนจะพูดให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ กลับพูดเอาแต่ดีเข้าตัวอยู่ข้างนอก ไม่อยากพูดหรอกว่าใคร เขาอาจจะไม่รู้ตัวแล้วเผลอไปหน่อยก็ได้ ดังนั้นอย่าเผลอสิ ทำงานอยู่ด้วยกันนั่งอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือ หากคิดว่าทำงานกับตนแล้วลำบากใจก็ไม่ต้องทำ ตนจะได้หาคนอื่นเข้ามาทำงาน เพราะอยู่กับรัฐบาลมา 4 ปี กลับพูดสวนทางกับรัฐบาล ทำไปได้ น่ารำคาญ

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า หากมีอะไรสำคัญขอให้เสนอมา ทุกคนคิดได้มากกว่าตนอยู่แล้ว แต่ทุกเรื่องนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนคิดและนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีต้องคิดแบบนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ต้องคิดแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นตนก็ได้