ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ระดมทุกสรรพกำลัง ช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างจากเหตุน้ำท่วม จ.เชียงราย พร้อมลงพื้นที่จี้ตรวจสอบระบบเเจ้งเตือน​ หลังถูกตำหนิไร้ประสิทธิภาพ​ ยืนยันมีงบประมาณฟื้นฟูเพียงพอ

วันนี้ (12 ก.ย. 2567) มท.1 เผยระดมทุกสรรพกำลัง ช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างจากเหตุน้ำท่วม จ.เชียงราย พร้อมลงพื้นที่จี้ตรวจสอบระบบเเจ้งเตือน​ หลังถูกตำหนิไร้ประสิทธิภาพ​ ยืนยันมีงบประมาณฟื้นฟูเพียงพอ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์วันนี้ (12 ก.ย. 2567) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หลังถูกวิพากษ์ว่าระบบเตือนภัยงานไม่ได้ว่า 'ตอนนี้ได้ระดมสรรพกำลังติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าฯเชียงใหม่ และผู้ว่าฯเชียงราย ให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ถุงยังชีพ เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยต่อเนื่อง ส่วนที่ประชาชนออกมาตำหนิว่าไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัย ว่าอย่าเพิ่งไปโทษว่าใครถูกใครผิด แต่ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนก่อน ตอนนี้ต้องเข้าไปสำรวจว่ามีประชาชนตกค้างหรือไม่ เพื่ออพยพมายังศูนย์พักพิง ขณะนี้ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี'

ทั้งนี้ วันนี้ 14.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย และส่วนตัวมีกำหนดการลงพื้นที่ไปเยียวยาและฟื้นฟู หากให้ลงพื้นที่ไปตอนนี้จะกลายเป็นว่าไปดึงทรัพยากรที่ควรจัดการทำหน้างาน ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งตนได้ประชุมศูนย์บัญชาการผ่านออนไลน์ ให้การสนับสนุนกำลังตามการร้องขอ ส่วนการลงพื้นที่วันเสาร์ที่ 14 กันยายน นี้ ขอประเมินสถานการณ์ก่อน

ส่วนแผนฟื้นฟูเยียวยา นายอนุทิน ยอมรับว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีงบทดรองในการใช้จ่าย แต่หากไม่เพียงพอ สามารถขอเสนอขยายงบประมาณเข้ามาได้ทันที ซึ่งส่วนกลางมีงบฯ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งท้องถิ่นพร้อมรับไปดำเนินการ ยืนยันเรื่องงบฯ ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาที่พบในขณะนี้ คือ ต้องไม่ให้ประชาชนติดค้างในที่อันตราย ต้องอพยพออกมาให้เร็วที่สุด ตอนนี้ได้จัดเตรียมเรือ เฮลิคอปเตอร์ปีกหมุน เข้าไปสำรวจผู้ติดค้าง'

นายอนุทิน กล่าวว่า น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงรายไม่ได้เกิดจากปริมาณฝนอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และน้ำที่เอ่อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และจากจังหวัดอื่น ๆ เช่น น้ำจากอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเส้นทางไหลไปทางอำเภอเชียงแสน และลงสู่แม่น้ำโขง เป็นการไหลทางเดินน้ำไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการ เป็นภัยธรรมชาติจริง ๆ แต่ตนจะเร่งเยียวยาประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ ต้องเร่งควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ยึดความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ส่วนประเด็นการใช้งบประมาณรับสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับงบประมาณสูงสุดในเขตพื้นที่ภาคเหนือ นายอนุทิน ตั้งคำถามว่า สมควรแก่เหตุหรือไม่ 'ส่วนที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตการเตือนภัยนั้น ตนจะกลับไปเร่งตรวจสอบว่าระบบเตือนภัยทำอย่างไร ซึ่งหลายคนแจ้งว่าได้รับแจ้งแล้ว แต่ธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีใครอยากออกจากเคหะสถาน ซึ่งประชาชนอาจประเมินว่าสถานการณ์ไม่รุนแรง ส่วนใช้วิธีการแจ้งเตือนแบบใด ขอตนลงพื้นที่ตรวจสอบก่อน โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งเตือน จากนี้จะใช้วิธีให้ชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ลงพื้นที่เกณฑ์ประชาชนอพยพจากพื้นที่ ยืนยันว่ามีอุปกรณ์ขนย้ายครบถ้วน ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ'

กรณีประเด็นปัญหาวิวาทะกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอนุทิน แจงว่า 'ไม่เคยมีวิวาทะกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ตนทำตามหน้าที่ เป็นเหตุผลที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการสั่งการต่าง ๆ จะไม่สะดุด ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ยอมรับเหตุผลของตน ซึ่งหากทุกคนทำตามเหตุผลก็จบ เพราะเป็นเรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว'

นายอนุทิน ย้ำว่า 'ในเรื่องการทำงานต้องทำ ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเป็นเรื่องของประชาชน ขณะที่เรื่องส่วนตัวเอาไว้ทีหลัง ซึ่งข้อสังเกตของตนเป็นเหตุเป็นผลในการบริหารงาน ไม่ได้ใช้อารมณ์ ยืนยันว่าตนไปไหน หากไม่ใช่การทำงาน ไม่ต้องการให้ใครมาต้อนรับ ขอให้มั่นใจ หากให้มาต้องมาด้วยหน้าที่ มาทำงาน ส่วนที่บอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปทำงานต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด มาต้อนรับนั้น นายอนุทิน ตอบว่า ไม่มีต้อนรับ แต่ต้องมาทำงานร่วมกัน เพราะผู้ว่าฯ เป็นคนในพื้นที่ ต้องพาไปทำงาน แต่หากตนไปเที่ยวส่วนตัว ผู้ว่าฯ ไม่ต้องมา'

ส่วนการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่จะเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ยัง ต้องรอหลายอย่าง แต่ไม่มีปัญหาการทำงานภายในจังหวัด ซึ่งมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในช่วงรอยต่อ รอการแต่งตั้ง ยืนยันไม่เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน