ไม่พบผลการค้นหา
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยกว่า 40 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จากปีก่อน สร้างรายได้ 2.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 9.36 เสนอภาครัฐพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว หวังช่วยลดมลพิษ

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี 2562 โดยระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 1/2562 เท่ากับร้อยละ 98 อยู่ในระดับใกล้เคียงปกติและใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ จากไตรมาสก่อน (100) สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทรงตัว เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเช่นกัน อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากปลายปี 2561 ร่วมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้สถานการณ์ฝุ่นละอองยังคงรุนแรงในบางพื้นที่ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลและประเมินสถานการณ์ ต่ำกว่าปกติ มาจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม (ร้อยละ18) หรือภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังซบเซาทำให้กำลังซื้อลดลง (ร้อยละ16) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนประเมินสถานการณ์ ท่องเที่ยวดีขึ้นบ้างในไตรมาสนี้จากการเดินทางที่สะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ ช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้ (2562) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 40.64 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จากปี 2561 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.20ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 9.36 และในไตรมาสหน้า (2/2562) ถ้าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.28ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.62 จากไตรมาส 2/2561 โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน 2.66 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.31 นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก 4.03ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.07 และนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะอยู่ที่ 1.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.60จากไตรมาส 2/2561

ส่วนการสำรวจความเห็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่า ปัญหาหลักที่ควรได้รับการแก้ไขคือผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว ที่ไม่มีใบอนุญาตและทักษะด้านต่างๆ ของแรงงานโดยเฉพาะด้านภาษา รวมถึงการพัฒนาระบบ IT และบุคลากรที่จะทำหน้าที่ ในการดูแลระบบ IT ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทั้งในระด���บพื้นที่และระดับโลก พัฒนาช่องทางในการติดต่อสื่อสารทั้งระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ททท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อวางแผนการจัดทำโปรโมชั่นและการประชาสัมพันธ์

สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศสะท้อนปัญหาตรงกันคือควรส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการด้านรถสาธารณะภายในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ และพัฒนาช่องทาง application ในการติดต่อระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ให้บริการ รวมถึงการพัฒนาระบบ feedback ความพึงพอใจในการให้บริการและการร้องเรียน

อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอให้ภาครัฐควรร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยในการลดมลพิษและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว สนับสนุนภาคประชาชนและผู้ประกอบการในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว กำหนดมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษี และไม่ใช่ภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม ประเพณีต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับทราบและมีการวางแผนล่วงหน้า