กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินรบของจีนได้บินพาดผ่านข้ามเขตป้องกันทางอากาศของไต้หวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ส่งผลให้เครื่องบินของไต้หวันต้องเข้าบินตอบสนองต่อการก่อกวนในครั้งนี้ และกองทัพไต้หวันยังได้ใช้ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศเพื่อติดตามเครื่องบินของจีนด้วย
ไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตน ได้ออกมาวิจารณ์ปฏิบัติการทางอากาศในลักษณะดังกล่าวของจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์ปกติในช่วงสองปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมของจีนไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ ต่อการส่งฝูงบินรบของตนเองเข้าไปยังเขตแดนของไต้หวันในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ จากการส่งฝูงบินครั้งใหญ่ของจีนครั้งแรกเข้าไปยังเขตแดนป้องกันทางอากาศของไต้หวันใน ม.ค. 2565 จีนได้ออกมาระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการปกป้องอำนาจอธิปไตยของตนเอง และเป็นไปเพื่อการตอบโต้กับ “การสมรู้ร่วมคิด” ของไต้หวันกับกองกำลังต่างชาติ อย่างไรก็ดี จีนเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อสหรัฐฯ ผู้ที่คอยให้การสนับสนุนและรับรองความปลอดภัยของไต้หวันจากการรุกรานของจีน
รัฐบาลไต้หวันกำลังตกอยู่ภายใต้ภาวะตื่นตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากไต้หวันเกรงว่าจีนจะใช้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย เพื่อดำเนินการทางทหารในลักษณะเดียวกันกับตนเอง แม้ว่าทางการของไต้หวันจะไม่ได้มีรายงานถึงสัญญาณใดๆ ที่ชี้ว่าจีนกำลังจะเข้าโจมตีเกาะของตน อย่างไรก็ดี ทางการจีนเคยออกมาวิจารณ์ความคิดที่ว่าจีนอาจบุกไต้หวันอย่างที่รัสเซียบุกยูเครนว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจากบริบทที่แตกต่างกัน
การส่งฝูงบินรบของจีนเข้ามายังเขตป้องกันทางอากาศของไต้หวันเมื่อวานนี้ ทำให้จีนได้ส่งเครื่องบินรบของตนเองเข้าเขตแดนป้องกันตนเองไต้หวันรวมทั้งสิ้น 39 ลำ นับตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เขตระบุตัวตนป้องกันทางอากาศของไต้หวันแยกกันจากเขตน่านฟ้าของไต้หวัน เนื่องจากเขตป้องกันภัยทางอากาศครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า เพื่อที่ไต้หวันจะสามารถลาดตระเวนรอบเกาะ และมีเวลามากขึ้นในการตอบสนองต่อภัยคุกคามจากจีน
ที่มา: