สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกว่า ที่นอนของผู้ต้องขังเดิมก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งนั้นรับได้ 220,000 คน ที่นอนแล้วจะไม่แออัดแต่เป็นแบบนอนพื้น เมื่อเข้ามาทำงานตรงนี้ ได้มีนโยบายเพิ่มที่นอนโดยการทำเตียงสองชั้นเพิ่มซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังได้อีก 80,000 คน แต่ต้องบริหารนักโทษให้มีไม่เกิน 300,000 คนทั่วประเทศ จึงมีเรื่องของกำไลคุมประพฤติ หรือ กำไล EM เข้ามา ซึ่งกำลังจะเริ่มทำในกลางเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ เมื่อก่อนกำไล EM มีปริมาณน้อยและได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว และทำใหม่มีจำนวน 30,000 เครื่อง โดยจะใช้กับกลุ่มผู้ต้องขังไม่เด็ดขาด คือ กลุ่มที่ศาลยังไม่มีคำสั่งให้จำคุก หรือปล่อยตัวยังไม่เด็ดขาด หรือกลุ่มคดียังไม่สิ้นสุด มีการประกันตัว อาทิ พวกนักโทษทางการเมือง นักโทษที่เกียวกับคดีเช็ค คดีที่ไม่ร้ายแรงมากและเป็นคดีที่ทำให้คนไม่วิตกกังวล โดยในส่วนของกลุ่มที่ได้รับการพักโทษนั้นตรงนี้เราจะมีคณะอนุกรรมการพักโทษ เพื่อมาพิจารณา หากผู้ต้องขังคนไหนเข้าเงื่อนไข ก็จะนำมาติดกำไร EM และหากจำนวน 30,000 เครื่องไม่พอ และมีการประเมินแล้วว่าผลที่ได้รับออกมาดีมาก ในวันข้างหน้าเราอาจจะจัดหาเพิ่ม
สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า มาตรฐานกำไลนี้จะเหมือนของศาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องการถอด หากมีการถอดจะถูกเพิ่มโทษและถูกส่งกลับเข้าเรือนจำ นอกจากนี้ผู้ที่ติดกำไล จะต้องมีการรายงานตัวอยู่เสมอ ในส่วนของผู้ต้องหาคดีร้ายแรง เช่น ฆ่าข่มขืนจะไม่มีการลดโทษให้ และจะไม่มีการใช้กำไลกับคดีเหล่านี้ โดยจะต้องออกเป็นกฎหมายให้ชัดเจน ซึ่งตนจะเข้าพบกับอัยการสูงสุด เพราะตอนนี้มีกฎหมายกักกันตัวอยู่ฉบับหนึ่ง ต้องหารือรายละเอียดเกี่ยวกับนักโทษที่คดีหนักๆ อาจจะต้องติดตามตัวอีกสัก 1-2 ปีด้วย เพื่อให้สังคมช่วยระวังกัน หากอัยการเห็นด้วยกับเรื่องนี้อาจจะออกเป็นกฎหมายได้