บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา จากกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า 'นักเรียนเลว' ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการที่ เริ่มกิจกรรมในเวลา 15.00 น. และมีการนัดหมาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขึ้นเวที เพื่อร่วมดีเบตปัญหาด้านการศึกษา ล่าสุด นักเรียนแต่งกายชุดนักเรียน แต่ใช้เทปกาวปิดชื่อ นามสกุล และอักษรย่อโรงเรียน พร้อมผูกโบว์ขาว
อีกทั้งได้จัดซุ้มข้างกระทรวงศึกษาธิการ มีการติดป้ายภาพวาดชูสามนิ้ว พร้อมติดตั้งพวงหรีด 48 พวง รวมถึงธงสัญลักษณ์ 48 องค์กร โดยรอบพื้นที่การชุมนุม ขณะเดียวกัน มีรถสุขารองรับผู้ชุมนุม 3 คัน โดยมีรุ่นพี่ ครู ผู้ปกครอง มาให้กำลังใจ
ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงในส่วนการดูแลความปลอดภัยว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เตรียมการรักษาความปลอดภัย โดยจัดกำลังตำรวจ สน.ดุสิต และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) ประมาณ 50 นายไปดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ตรงจุดที่มีการประสานขอใช้เป็นสถานที่การชุมนุมแล้ว ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขออนุญาตจัดกิจกรรมไว้ไม่เกินเวลา 20.00 น.
รอง ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ในส่วนการข่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องที่น่าเป็นกังวล และการชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวที่ผ่านมา ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตรวจสอบแล้วยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงเชื่อว่าการชุมนุมในวันนี้ก็จะผ่านไปด้วยดีเช่นกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า ตำรวจเพียงทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้เกิดอันตรายกับกลุ่มผู้ชุมนุม หรือมีมือที่สามเข้าไปสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนความวุ่นวาย
พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมนี้ด้วย กล่าวว่า ปัจจุบันการเมืองสามารถพูดคุยกันได้ในโรงเรียน และการชุมนุมในวันนี้ขออย่าเรียกว่าม็อบแต่เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ ที่เป็นการทดลองการทำหน้าที่พลเมือง ซึ่งการเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนไม่ใช่เพียงเพื่อการเปลี่ยนแปลงกฎการศึกษา แต่ยังแสดงให้เห็นว่าคนที่มีอำนาจมากกว่ากดขี่ คนที่มีอำนาจน้อยกว่าในสังคม
เวลา 16.00 น.ได้มีการปราศัยจากนักเรียน 3 โรงเรียน เพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา และเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม บน 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หยุดคุกคามนักเรียน 2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และ 3.ปฏิรูปการศึกษา ส่วน 1 เงื่อนไข คือ หากทำไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่ง
ด้าน ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำการเคลื่อนไหวทางการเมือง ขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุมในครั้งนี้ด้วยโดยมาในฐานะผู้ปกครอง กล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้ใหญ่คนไหนไม่สนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องนี้คงจะเสียสติไปแล้วเพราะ 3 ข้อเรียกร้องเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กทุกคนควรจะมี ซึ่งปัจจุบันไทยได้มีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก จึงขอยกสิทธิที่เด็กพึ่งมีในอนุสัญญา ดังนี้
1. เด็กจะต้องมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ อยากมีคุณภาพและปลอดภัย
2. เด็กจะต้องได้รับความคุ้มครองจากความรุนแรงไม่ว่าจะทั้งร่างกายหรือจิตใจ
3. สิทธิในการพัฒนาคือสิทธิในการศึกษาที่กระทรวงศึกษาจะต้องดูแล
4. สิทธิในการแสดงออก ในการมีส่วนร่วมต่อสังคม
นอกจากนี้ ได้มีการร้องเพลงผู้ใหญ่เอ๋ยผู้ใหญ่ดี ซึ่งเป็นเพลงที่ล้อกับเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี
เวลา 17.00 น. ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ปรากฏตัวบริเวณที่ชุมนุม โดยยืนยันว่าพร้อมขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น ท่ามกลางเสียงโห่และการชูสามนิ้วของนักเรียน
ณัฎฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ครูในโรงเรียนมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจในการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มนักเรียน ทางกระทรวงศึกษาได้เปิดช่องให้มีการร้องเรียน โดยยอมรับว่าการพูดคุยบางเรื่องถือเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยในประเทศไทย จึงต้องมีการปรับตัว จัดกระบวนการใหม่ทั้งหมด เรื่องบางเรื่องไม่สามารถแก้ไขได้ทันที หากทุกคนไม่ช่วยกัน
ณัฎฐพล ยืนยันว่า สถานศึกษาต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน โดยหากใครมีปัญหาสามารถ ถูกลงโทษเกินกว่าเหตุ ละเมิดสิทธิหรืออื่นๆ สามารถส่งข้อมูลหรือข้อเสนอแนะมาได้ยังกระทรวงศึกษาธิการได้
รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า การแสดงออกของนักเรียนนั้นสามารถทำได้ หากไม่ผิดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิผู้อื่นๆ ทั้งการติดโบขาว การพูดคุยหรือแสดงออกทางการเมือง
'มิน' ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6 ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลวที่ร่วมขึ้นเวทีดีเบต กล่าวว่า กฎระเบียบของกระทรวงในปัจจุบันนอกจากล้าหลังแล้วยังมีหลายโรงเรียนไม่ปฏิบัติตาม รวมถึงปล่อยปละละเลยให้เกิดการละเมิดสิทธิเด็ก
ณัฎฐพล ยอมรับว่า ที่ผ่านมากระทรวงไม่ได้เข้มงวดกับการบังคับใช้กฎระเบียบต่างๆ รวมถึงมีปัญหาทับซ้อนจำนวนมาก เช่น การล่วงละเมิดทางเพศเด็กของคุณครู ที่ไม่เคยมีการไล่ออกเพราะมีการเจรจาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามในวันนี้กระทรวงศึกษาจะไม่ยอม และปล่อยให้เรื่องแบบในอยู่ในวงจรของโรงเรียนอีก
ลภนพัฒน์ กล่าวถึง เรื่องของการแต่งกายในชุดยูนิฟอร์ม ที่แม้จะเหมือนกันแต่ยังถูกกำหนดด้วยรายละเอียดเล็กๆ อย่างความยาวและเนื้อผ้า พร้อมเสนอให้มีการแต่งกายอย่างอิสระ
ณัฏฐพล อธิบายว่า การสวมใส่ชุดนักเรียนนั้นมีเหตุผลในแง่ของความปลอดภัย เพื่อให้สามารถแยกแยะกลุ่มนักเรียนได้ และเชื่อว่าหากเกิดปัญหาไม่คาดคิดขึ้น คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าไปช่วยเหลือนักเรียนมากกว่า
ขณะเดียวกัน รมว.ศึกษาฯ มองว่า การใส่ชุดไปรเวทจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากกว่าการใส่ชุดนักเรียน
สำหรับเรื่องทรงผม ผู้หญิงสามารถทำผมได้ทั้งสั้นและยาวแต่ถ้าเป็นผมยาวขอให้รวบผมให้เรียบร้อย และสามารถตัดหน้าม้าได้ ส่วนผู้ชายสามารถตัดรองทรงได้และไม่มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการมีกฎระเบียบเป็นอื่น
อย่างไรก็ตามหากผู้ชายต้องการไว้ผมยาวเสมอผู้หญิงและผู้หญิงตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ ต้องรวบรวมความคิดเห็นและเปลี่ยนแปลงไปทีละลำดับ
เมื่อถูกถามว่า ระบบการศึกษาสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองใคร
ณัฎฐพล กล่าวว่า หากวันนี้ยังคิดว่าระบบการศึกษาไม่ตอบสนองใครเลย นักเรียนและทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยกันแก้ไขเพื่อให้เกิดการตอบสนองและเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ซึ่งหากตนเองทำไม่สำเร็จก็พร้อมพิจารณาตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการดีเบตในวันนี้มีเสียงโห่อยู่เป็นระยะในขณะที่ณัฎฐพล พูด และก่อนปิดเวทีดีเบตก็ได้มีเสียงโห่ว่า "ออกไปๆ" อย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง