"มาทำให้พรรคกลมเกลียวกันไม่ได้หรือ เพราะบางทีคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เราก็ต้องไปดู”

ผสมวลี “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้” ของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เมื่อถูกสื่อถามถึงการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แต่ภาพที่ “ตั้งใจ” ให้ปรากฏออกมาสู่สาธารณะเป็นภาพที่แกนนำทั้งหลาย จับมือไขว้กันโดยมี “พล.อ.ประวิตร” อยู่ตรงกลาง เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา  

ไล่เรียงตั้งแต่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำกลุ่ม กทม. ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า แกนนำกลุ่มภาคเหนือ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เลขานุการวิปรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำกลุ่ม กทม.โดยอยู่ฝั่งด้านขวามือของ พล.อ.ประวิตร

ขณะที่ด้านซ้ายมือของ “พี่ใหญ่” มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค ประธานจัดการประชุมหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย รองประธานยุทธศาสตร์พรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร นายสุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส.พรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แต่ไร้เงา นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิริวงศ์ รักษาการเลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กก.บห.พรรค และนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค ในสังกัดแกนนำ 4 กุมาร

ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบว่าท่านมีกำลังของท่านดีอยู่แล้ว และรับปากว่าหากจำเป็นต้องเป็นหัวหน้า พปชร.จะทำให้ดีที่สุด พล.อ.ประวิตรไม่เคยบอกว่าอยากเป็น แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็นอาจต้องเป็น ก็ทราบมาอย่างนี้

งานนี้ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล 1 ใน 12 คน ที่ปรากฏอยู่ในภาพอันชื่นมื่น ตอบเหตุผลที่ไม่เชิญ 4 กุมาร เข้าร่วมซีนแบบ ตรงไป - ตรงมา ที่สุด ว่า “เราจะไล่เขา จะไปเชิญเขามาทำไม”

อาจกล่าวได้ว่า “ปิดฉาก” การนำในพรรคพลังประชารัฐของทีม 4 กุมาร  สอดคล้องกับ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” บอกว่าที่ยืนของ 4 กุมาร พื้นที่กรรมการบริหารพรรค “ไม่มีที่ยืน” ให้ทีม 4 กุมาร อีกต่อไป

ร่องรอยความ “ปลง” เรื่องวุ่นๆ ในพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏผ่านปากคำพี่ใหญ่ - ที่พึ่งทางใจของ 4 กุมาร “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เขาเป็นผู้เดินเกมประสาน ต่อสายนักการเมืองให้มีพรรคการเมือง ต่ออำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จนเกิดเป็นพรรคพลังประชารัฐ

แต่วันนี้ “สมคิด” บอกว่า “ผมไม่ได้ตั้งพรรค แต่ผมคิดให้นายกฯ” และ “ผมทำงานให้นายกฯ”

ล่าสุด 24 มิ.ย. 2563 “สมคิด”ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า  “ไม่ต้องถามเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) คนเก่าไป คนใหม่มา เก่าไม่ไป ใหม่มา ไม่ต้องพูด ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญ เรื่องสำคัญคือ ไม่ว่าเก่าจะอยู่ หรือใหม่จะมาต้องเดินตามหลักการ”

แปลความว่า “สมคิด” ก็ยอมถอย - ปล่อยมือจากพรรคพลังประชารัฐ

เกมชิงอำนาจในพรรคปิดฉากด้วยความพ่ายแพ้ของทีมสมคิด – 4 กุมาร เหลือเพียงตำแหน่งรัฐมนตรีเท่านั้นที่ยังยึดโยง อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจ

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว  20 ส.ค.2558 เป็น วัน ว.เวลา น.ที่ทีมเศรษฐกิจของ “สมคิด” มีชื่ออยู่ใน ครม.พล.อ.ประยุทธ์ 1/3 ในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

เสียบแทนที่ “ทีมเศรษฐกิจหม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ในฐานะเพื่อน พล.อ.ประวิตร ถูกถอดยกแผง อาทิ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอำนวย ปะติเส รมว.เกษตรและสหกรณ์  นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน

บรรยากาศก่อนที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะตัดบัวไม่เหลือใย กับทีมเศรษฐกิจหม่อมอุ๋ย เกิดเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน หลังรองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะมีรายงานจากขอบเวที CEO FORUM ของสมาคมธนาคารไทยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรไปเผลอพูดว่า “นายกฯ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ”

ด้วยปัจจัยเศรษฐกิจตกต่ำ แนวทาง “เศรษฐกิจดิจิทัล” อันเป็นธงของทีมหม่อมอุ๋ย ยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจกระเตื้อง ผสานกับคำพูด “นายกฯ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ” เพียงเท่านั้นก็เกิดแรงกระเพื่อม

18 ส.ค.2558 ก่อนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) 48 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในการประชุม ครม. สร้างความระทึกให้กับทีมเศรษฐกิจหม่อมอุ๋ยเล็กๆ แต่รุนแรง ด้วยการพูดว่า "ขอบคุณ รัฐมนตรีทุกคนที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักในตลอดเกือบ 1 ปีเต็ม" หลังจาก ครม.ประชุมเสร็จ ทีมเศรษฐกิจหม่อมอุ๋ยจึงหารือกันเงียบๆ ในทำเนียบ เพื่อประเมินสถานการณ์อันไม่สู้ดี

24 ชั่วโมงต่อมา 19 ส.ค.2558 ปรากฏโผ ครม.ชุดใหม่ว่อนโซเชียลมีเดีย ส่งทุกกรุ๊ปไลน์ มี “สมคิด” เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและพวก เข้ามาประจำการแทนทีมหม่อมอุ๋ย  

20 ส.ค.2558 ก็เป็นไปตามโผ “ทีมสมคิด” ผงาดคุมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.  “อุตตม” จากรั้ว ม.กรุงเทพ มาเป็น รมว.ไอซีที – สุวิทย์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษา - ทีมของ “เทียนฉาย กีรนันทน์” ประธาน สปช.มานั่งเป็น รมช.พาณิชย์ ขณะที่ “สนธิรัตน์” เข้ามาเสริมทัพในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ในการปรับ ครม.อีก 1 ปีถัดมา

แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐ ฉายภาพฉากจบแต่ยังไม่จบของทีม 4 กุมารว่า ตอนรัฐประหารจบลงใหม่ๆ ก็ พล.อ.ประวิตร  พานายสมคิดมาหา พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านนายกฯ ไม่รู้จักใคร จนนายสมคิดได้เป็นที่ปรึกษา คสช.ด้านเศรษฐกิจ ขณะที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจตอนนั้นคือหม่อมอุ๋ย ก็เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ของ พล.อ.ประวิตร ทุกคนมาจาก พล.อ.ประวิตร พอถึงจังหวะก็ปรับทีมหม่อมอุ๋ย เพื่อนก็ส่วนเพื่อน

ไทมไลน์การเข้าสู่ตำแหน่งของทีมเศรษฐกิจสมคิด ก็มาจากปฏิบัติการหักเหลี่ยมทีมหม่อมอุ๋ย

ไม่แปลกที่เวลานี้ทีมเศรษฐกิจสมคิดจะถูกเขย่า - เอาคืน

การเฟ้นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ยังคงเดินหน้า ถูกโยนชื่อมาหยั่งกระแสต่อเนื่อง ทุกชื่อเชื่อมโยงนายทุน เกี่ยวพันคอนเนคชั่นของ “ลุงป้อม”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ชำแหละ 5 ก๊ก ฉบับ พปชร. ป่วนพรรค-เขย่าการเมือง-ฆ่าน้อง-ฟ้องนาย-ขายเพื่อน
• กางโผตัวเต็ง 'แม่บ้าน พปชร.' - 'ลุงป้อม' เลือกเอง วางสเปก "ดีครับท่าน-เหมาะสมครับนาย"
• เขี่ยทิ้ง '1มิตร' - 'สองมิตร' ผนึกกุนซือ 'ลุงป้อม' วางเกมบีบ 'ธรรมนัส' เซ็นทิ้ง กก.บห.
• 'สมคิด' โวยอย่าถามเรื่องปรับ ครม. ให้ทำงานตามหลักการ
• 'สมคิด' โวยอย่าถามเรื่องปรับ ครม. ให้ทำงานตามหลักการ
• 'ประวิตร' เผยรับเป็น หน.พปชร. เพราะ 'พรรคคุยกันไม่รู้เรื่อง'
• นอนมา! หัวหน้าก๊กจับมือโชว์พลัง ‘ประวิตร’ ตอบรับประมุข พปชร. วอนอย่าแตกแยก