สำนักข่าวอิระวดี สื่ออิสระของเมียนมาเปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีพลเรือนชาวเมียนมาอย่างน้อย 12 ราย จากหลายเมืองทั่วประเทศ ที่เสียชีวิตจากฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพ ในจำนวนนี้พบว่ามีเยาวชนวัยเพียง 10 ขวบรวมอยู่ด้วย

รายงานระบุว่า ช่วงคืนของวันที่ 26 ที่ผ่านมา กองกำลังทหารเมียนมาได้กราดยิงประชาชนอย่างไม่เลือกหน้าบริเวณริมถนนใกล้ตลาดแห่งหนึ่งในเขตเมือง Mingalar Taung Nyunt ของนครย่างกุ้ง พบผู้บาดเจ็บเป็นชายวัย 42 ปี ที่ขายของหาบเร่ออยู่บริเวณใกล้เคียงถูกยิงเข้าที่ต้นคอเสียชีวิต มีรายงานว่าทหารได้นำร่างผู้ตายออกจากจุดเกิดเหตุแล้วนำศพกลับมาส่งให้ครอบครัวเพื่อทำพิธีศพในวันต่อมา

พยานผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า ขณะเกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ที่เดินซื้อของในตลาด ผู้ค้าขาย ไปจนถึงประชาชนในละแวกนั้นต่างพากันวิ่งหลบหนีกระสุน พวกเขากล่าวว่า การกระทำของทหารเมียนมาในวันนั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผล เหมือนกราดยิงเพื่อสนองอารมณ์ของตัวเองที่กำลังเมาสุรา ทั้งยังทำลายข้าวของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง

ส่วนที่เมืองมะกเว ทางภาคกลางของประเทศ รายงานข่าวว่ามีชายสูงอายุวัย 72 ปี เสียชีวิต คาดถูกซ้อมทรมานโดยกองทัพระหว่างถูกควบคุมตัวช่วงระหว่าง 18 - 21 สิงหาคม จากรายงานของสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย ระบุว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ขบวนรถทหารของกองทัพเมียนมา 40 คน ถูกซุ่มโจมตีโดยกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) เมื่อ 18 สิงหาคม ในเย็นวันเดียวกัน ทหารเมียนมาได้บุกเข้ามายังหมู่บ้าน Hnan Khar พร้อมทั้งตั้งค่ายชั่วคราวที่หมู่บ้าน เป็นเหตุให้บรรดาชาวบ้านวัยหนุ่มที่ยังแข็งแรงหนีออกจากหมู่บ้าน เหลือไว้เพียงคนชราที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ 

Kan Htauk ชายชราวัย 72 ปีที่ อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เล่าว่าถูกบรรดาทหารพม่าซ้อมทรมาณ เพื่อหวังรีดเอาข้อมูลของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน ว่ามีสมาชิกคนใดในหมู่บ้านที่เข้าร่วมกับกองกำลังดังกล่าว กระทั่งภายหลัง Kan Htauk ได้เสียชีวิตเนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสจากการถูกซ้อมทรมาณในเย็นวันเดียวกัน

ที่เมือง Thantlang ในรัฐฉิน มีรายงานข่าวว่า ช่วงกลางดึกของ 25 สิงหาคม ช่วงการต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังป้องกันตนเองของประชาชนที่ต่อต้านกองทัพ มีเด็กอายุ 10 ขวบ ถูกกระสุนของฝ่ายกองทัพเมียนมายิงเสียชีวิต

“กระสุนเข้าที่คอของเด็กและยังมีพลเรียนหลายคนได้รับบาดเจ็บจากการยิงของกองทัพ” รายงานข่าวระบุ

เช่นเดียวกับที่เมือง โมนยวาในเขตซะไกง์ ชายวัย 29 ปี เสียชีวิตระหว่างถูกกองทัพควบคุมตัวในเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า มีชายคนหนึ่งอายุ 29 ปี ที่อาศัยอยู่เมืองโมนยวาในเขตซะไกง์ เสียชีวิตระหว่างถูกกองทัพคุมขังไม่ถึง 24 ชั่วโมง

เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตเล่าต่อสำนักข่าวอิระวดีว่า “เขาถูกทหารจับกุมและนำไปคุมขังเมื่อวันอังคารที่ 24 สิงหาคม กระทั่งวันต่อมาแม่ของผู้ตายทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว"

กองทัพได้ระบุในแถลงโดยอ้างว่า ชายที่เสียชีวิตเพราะเนื่องจากการป่วยติดเชื้อโควิด แต่แม่ของผู้เสียชีวิตไม่เชื่อ เธอบอกว่าพบร่องรอบการถูกทุบตีและทรมานตามร่างของลูกชาย เช่น รอยบุหรี่จี้บริเวณแก้มและเลือกออกในดวงตาและศีรษะของลูกชายมีรอยแผลขนาดใหญ่

ผู้เสียชีวิตในวันพุธอีกหนึ่งรายคือ ครูโรงเรียนเอกชนในเมืองธาเกตา ชานนครย่างกุ้ง ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดกรมการปกครองในเมือง Okkalapa เมื่อ 22 สิงหาคม

รายงานข่าวระบุว่า คาดว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตหลังจากถูกกองทัพสอบสวนเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าว

แหล่งข่าวใกล้ชิดครอบครัวชายดังกล่าวบอกกับสำนักข่าวอิระวดีว่า กองทัพขอให้ครอบครัวจ่ายเงินสำหรับส่งศพลูกชายกลับบ้าน หากไม่จ่ายเงินก็จะไม่ส่งศพให้

ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์กรช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เผยว่า นับตั้งแต่รัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม กองทัพเมียนมาสังหารพลเรือนไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,026 คน ประกอบไปด้วยประชาชนทั่วไป เด็ก ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างกองทัพสลายการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร

ที่มา: The Irrawaddy , RFA