ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' แจงเหตุผลไทยเข้าโครงการโคแวกซ์ ชี้ปี 65 โคแวกซ์จะมีวัคซีนเพิ่มขึ้นบริหารจัดการง่าย ย้ำไม่ผิดแผนที่ไทยไม่เข้าร่วมปีนี้ เหตุท่ัวโลกต้องการวัคซีนมาก โชว์ไทยมีสะสมวัคซีนตั้งแต่ ก.พ.- ก.ค.64 แล้ว 27 ล้านโดส

วันที่ 25 ก.ค. 2564 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์ วิจารณ์เรื่องไทยพิจารณากลับเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ผ่านโครงการโคแวกซ์ ว่า การพิจารณาของไทย ไม่ได้หมายความว่า การที่ไทยไม่ได้เข้าร่วมในปีนี้ ถือว่าผิดแผนผิดพลาดล้มเหลว แต่ไทยตัดสินใจบนสถานการณ์จริง ที่ปี 2564 ทั่วโลกต้องการวัคซีนมากมายมหาศาล ทางโคแวกซ์ ก็เช่นกันต้องประสบกับความยากลำบากในการจัดหา ซึ่งก็ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ ปัจจุบันนี้ ค่าเฉลี่ยการกระจายวัคซีนให้ชาติสมาชิกอยู่ที่ประเทศละ 1 ล้านโดส และในความเป็นจริง บางชาติได้รับหลักล้าน แต่บางชาติได้รับหลักหมื่น โครงการโคแวกซ์ สำหรับปี 2564 ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ดังนั้น ไทยจึงไม่ได้หวังพึ่งจากโครงการนี้เป็นหลัก แต่ได้เข้าไปจัดหากับผู้ผลิตโดยตรง 

อนุทิน ระบุว่า หากมองในมุมของประเทศไทยที่มีการซื้อวัคซีนตรงกับบริษัทผู้ผลิตที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่ ก.ย. 2563 ทำให้ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 จนถึงสิ้นเดือน ก.ค. 2564 ไทยเรามีวัคซีนรวมสะสมทั้งสิ้นประมาณ 27 ล้านโดส แบ่งเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ราว 12 ล้านโดส และซิโนแวคอีก 15 ล้านโดส และยังมีส่วนที่ได้รับการบริจาคราว 3.5 ล้านโดสเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 ล้านโดสที่เราได้รับจากประเทศญี่ปุ่น วัคซีนซิโนแวค 1 ล้านโดสจากประเทศจีน และวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่จะเข้ามาปลายเดือนนี้

“ย้อนกลับไป ตอนที่ไทยมีแผนวัคซีน เราไม่ได้เลือกโคแวกซ์เป็นแผนหลัก เพราะตอนนั้น เราไม่อยากวางเงินซื้อ ซึ่งเรารู้ดีว่า หลังจากนั้น เราจะกำหนดอะไรไม่ได้ ทางไทย จึงกันงบ ไว้จัดซื้อ จัดหากับผู้ผลิตโดยตรง ที่การพูดคุยหารือ ยังเป็นไปได้มากกว่า"

อนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันของโครงการโคแวกซ์ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไทยและโคแวกซ์ได้หารือกันมาตลอด มีคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ พบว่า ในปี 2565 การกักตุนวัคซีนจะน้อยลง โคแวกซ์จะมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น บริหารจัดการง่ายขึ้น ชาติสมาชิกจะมีความชัดเจน เรื่องการได้รับวัคซีน ไทยจึงเข้าร่วม เราตัดสินใจบนสถานการณ์จริง