ในฤดูกาลเกณฑ์ทหารปี 2566 ที่กำลังเริ่มขึ้นในวันที่1 - 20 เม.ย. นี้ คือช่วงเวลาที่ชายไทยต่างต้องเผชิญกับสภาวะการให้คุณค่าว่า ‘ชายไทยต้องเกณฑ์ทหาร’ ต้องแบกรับการรักษาความมั่นคงของชาติ ขณะเดียวกัน สังคมที่ผ่านมักบอกว่า การที่ผู้ชายเป็นทหารคือการเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์เป็นความสูงส่งและสมบูรณ์
หลายปีที่ผ่านมา การบังคับเกณฑ์ทหารถูกนำมาเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้าง นำมาสู่คำถามบนโลกโซเชียลมีเดียว่า #ทหารเกณฑ์มีไว้ทำไม? เหตุเพราะที่ผ่านมา ปรากฎข่าวและเสียงสะท้อนมากมายถึงชะตากรรมพลทหาร ที่ต้องไปรับใช้ ‘ครอบครัวนาย’ แทนการรับใช้ชาติ ตกอยู่ในสภาวะอำนาจนิยมอันตึงเครียด สุขภาวะและอาหารการกินในค่ายทหารที่เต็มไปด้วยสารพัดผักและวิญญาณไก่ หลายครอบครัวขาดเสาหลัก หลังผู้ชายในครอบครัวจับได้ใบแดง ไปจนถึงความตายปริศนาของทหารผู้น้อย ที่ยังรอคอยความยุติธรรม
เพื่ออุ่นเครื่องสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง 2566 ว๊อยซ์ ชวนสำรวจนโยบายของ 8 พรรคใหญ่ ถึงทรรศนะและจุดยืนในเรื่องการเกณฑ์ทหาร หลายพรรคมองว่าควรยกเลิก บางพรรคคิดว่า ควรลดจำนวนหทหารเกณฑ์ และหลายพรรคการเมืองยังคงเงียบงัน ท่ามกลางการรอคอยของประชาชน
พรรคเพื่อไทย ชูยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เป็นแบบสมัครใจ เปลี่ยนค่ายทหารเป็นวิทยาลัย มีใบประกอบวิชาชีพตามถนัด และเพื่อให้การจัดสรรงบประมาณกองทัพมีประสิทธิภาพ
พรรคไทยสร้างไทย สนับสนุนให้ยกเลิกการจับใบดำใบแดง เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ โดยทุกเหล่าทัพมีทหารเกณฑ์รวมกันประมาณ 100,000 คน ในจำนวนนี้อาสาเข้ามาเป็นทหารประมาณ 5 หมื่นคน และจับได้ใบแดงอีก 5 หมื่นคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าความต้องการจริง จึงเห็นภาพพลทหารไปรับใช้ตามบ้านผู้บังคับบัญชา ซึ่งใช้งานผิดประเภท และเกินความจำเป็น
พรรคก้าวไกล เสนอยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้ใช้ระบบสมัครใจ
พรรคเสรีรวมไทย ยกเลิกการเกณฑ์ทหารให้ใช้ระบบอาสาสมัคร ลดอายุประจำการเหลือ 1 ปี และเน้นใช้เทคโนโลยีแทนกำลังคน
พรรคชาติพัฒนากล้า มองว่าควรทำให้กระบวนการในเกณฑ์ทหารเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ดี เป็นอาชีพหนึ่ง ตำแหน่งหน้าที่ดี ก้าวหน้า เพื่อให้ผู้ที่อยากเป็นทหารมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องมีการเกณฑ์ทหาร
ภูมิใจไทย ไม่มีนโยบาย
พลังประชารัฐ ไม่มีนโยบาย
รวมไทยสร้างชาติ ชูทหารอาสาสมัคร ลดการเกณฑ์ทหารลง 70%
ประชาธิปัตย์ ไม่มีนโยบาย