ชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 20-29 ส.ค. 2563 เวลา 06.00 น. ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ น่าน, แพร่, เชียงใหม่, ลำปาง, พะเยา, อุตรดิตถ์, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, สุโขทัย, ตาก, พิษณุโลก, กาฬสินธุ์, และสิงห์บุรี รวม 58 อำเภอ 211 ตำบล 933 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,798 ครัวเรือน
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน และ จ.พิษณุโลก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.พรหมพิราม รวม 22 หลัง ระดับน้ำลดลง คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมหรือปริมาณน้ำเพิ่ม ระดับน้ำจะลดลงภายใน 2 วัน
ชยพล กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคและวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เป็นการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม