จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กำลังระบาดในจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ประชาชนจำนวนมากมีความวิตกกังวล ส่งผลให้บริษัทประกันภัยประกันชีวิตหลายแห่งต่างทยอยออกผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ประกันชีวิตและความคุ้มครองพิเศษออกมารองรับ
บริษัท ทิพยประกันภัย ออกกรมธรรม์ "ประกันไวรัสโคโรนา" บรรเทาและลดภาระค่ารักษาพยาบาล จากการติดเซื้อไวรัสโคโรนา ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยในระยะสุดท้าย จากการติดเซื้อไวรัสโคโรนา โดยสามารถซื้อทุนประกันภัยได้สูงสุดถึง 1 ล้านบาท พร้อมค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 100,000 บาท เบี้ยประกันภัยเริ่มปีละ 150 บาท (เบี้ยราคาเท่ากันทุกช่วงอายุ) โดยความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์
บริษัท กรุงเทพประกันภัย และทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยภายใต้ชื่อ "ประกันภัย ไวรัสโคโรนา" เป็นกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพแบบเฉพาะโรค (เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019) ในคอนเซ็ปต์ "เจอ จ่าย จบ" ให้ความคุ้มครองทันที 50,000 บาท โดยผู้สนใจสามารถทำประกันนี้ได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสุขภาพ ด้วยเบี้ยประกัน 299 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี
บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ประกาศว่า หากผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 บริษัทจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนเงินผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ
ขณะที่ พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต มีกรมธรรม์คุ้มครองผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวันเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคไวรัสโคโรนา แก่ผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต และมีสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ โดยจะจ่ายค่าชดเชยรายวันละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 15 วัน เพิ่มเติมจากผลประโยชน์ที่จะได้รับตามที่กำหนดในตารางกรมธรรม์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
สมาคมประกันชีวิตไทยย้ำผู้ถือประกันชีวิตมีิสิทธิได้รับการคุ้มครองไวรัสโคโรนา
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ได้กล่าวยืนยันว่า ผู้ที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตและยังมีผลบังคับอยู่ ณ ปัจจุบัน จะยังคงได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีครอบคลุมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ตามจำนวนผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิตและ/หรือสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ
ประกันสังคม ยันผู้ประกันตนได้รับสิทธิการรักษาพยาบาล
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่ากรณีผู้ประกันตนเกิดเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกไว้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิได้ สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อน หลังจากนั้น ญาติ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องรีบแจ้งให้โรงพยาบาลตามสิทธิฯ ทราบโดยด่วน เพื่อรับตัวไปรักษาต่อและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยจะนับตั้งแต่เวลาที่โรงพยาบาลได้รับแจ้งจนสิ้นสุดการรักษา
ส่วนค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นก่อนการแจ้งนั้น สำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบภายใน 72 ชั่วโมงแรก ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด ผู้ประกันตนที่สำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อนสามารถเบิกคืนจากสำนักงานประกันสังคมได้ โดยนำหลักฐานมายื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนคือ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01) ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร หน้าแรก ที่มีชื่อ – เลขที่บัญชี ของผู้ประกันตน และในกรณีผู้ประกันตนที่เจ็บป่วย และต้องหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์เป็นเวลานานหลายวันทำให้สูญเสียรายได้
"ขอให้ผู้ประกันตนไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ที่ขาดหายไปจากการที่ไม่ได้ทำงาน สำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแลเต็มที่ โดยผู้ประกันตนสามารถขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างไม่เกิน 365 วัน ใน 1 ปี นอกจากนี้ผู้ประกันตนยังสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ระบุ