ไม่พบผลการค้นหา
คลังติดตามใกล้ชิด หลังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ลดลง ด้าน รมว.คลัง ยันเศรษฐกิจไทยจะไม่ถดถอย เตรียมจัดตั้งหน่วยงานวิเคราะห์สวัสดิการให้ผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดมากขึ้น ชี้การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ ยังไม่สรุปมาตรการและงบประมาณ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ในเดือนล่าสุดที่ชะลอตัวลงเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่จะทำให้การจัดเก็บน้อยลงบ้าง แต่โดยรวมที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีดังกล่าวยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะติดตามดูแลสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยยืนยัน การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลง 2 เดือนติดต่อกันนั้น ว่า เศรษฐกิจจะไม่ถดถอยแน่นอน เพราะรัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและภาคเอกชนให้สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ โดยหลังจากนี้เชื่อว่าการจัดเก็บภาษีจะดีขึ้น

ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินการคลัง ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ ยืนยันว่าที่จะต้องมีคณะกรรมการชุดนี้ ขึ้นมาเพื่อดูแลเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศ โดยมั่นใจว่า การจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้จะทำให้สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ตามรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ก.ค. (ข้อมูลล่าสุด) พบว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในเดือน ก.ค. หดตัวร้อยละ 9.1 ต่อปี เป็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือน มิ.ย. ที่หดตัวร้อยละ 5.6 ต่อปี จากเดือน พ.ค. ขยายตัวร้อยละ 5.0 ต่อป

แวต ก.ค. 2562-VAT-ภาษีมูลค่าเพิ่ม

'คลัง' เตรียมตั้งหน่วยงานใหม่ กำหนดสวัสดิการให้ผู้มีรายได้น้อย

นอกจากนี้ นายอุตตม ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมารับผิดชอบการจัดสวัสดิการให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรองรับการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยในรอบหน้า ที่จะเริ่มลงทะเบียนภายในสิ้นปี 2562 นี้ พร้อมทั้งยังได้ให้มีการตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการฯ เข้ามาเป็นระบบ Big Data เข้าไปใส่ระบบบล็อกเชน โดยใช้เทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ ว่าใครจนจริงไม่จริง เพื่อให้สามารถจัดชุดสวัสดิการที่เฉพาะและตรงจุดตามความต้องมากขึ้น

โดยข้อมูลที่จัดเก็บ เช่น ประวัติการใช้จ่ายผ่านระบบอีเพย์เมนต์ว่าส่วนใหญ่มีการใช้ซื้อสินค้าประเภทใด และในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ รวมถึงการรักษาพยาบาล เนื่องจากกลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังเป็นผู้ใช้บัตรทองในการรักษาพยาบาล มูลค่ารวมกันถึง 12,960 ล้านบาทต่อเดือน

รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในและนอนกระบบ ก็จะเน้นการเข้าไปช่วยเหลือเรื่องหนี้ และการสำรวจการพัฒนาอาชีพ ก็จะมีมาตรการเสริมสร้างโอกาสในการทำงาน

"รูปแบบสวัสดิการรอบใหม่จะเป็นการจัดชุดที่มีความแตกต่างกันตามความต้องการ หรือ เติมตามความขาดแคลน ยังไม่ได้สรุปชัดว่าจะมีสวัสดิการรูปแบบใด และใช้งบประมาณเท่าใด และยังไม่ได้มีการสรุปว่าจะให้สวัสดิการเป็นรายบุคคล หรือ แบบครัวเรือน" นายอุตตม กล่าว

โดยนายอุตตม ยอมรับว่า ที่ผ่านมาการใส่สวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อยอาจจะไม่ตรงจุดบ้างเป็นเรื่องปกติบ้าง แต่ยืนยันว่าจะแก้ไขโดยการใช้เครือข่ายลงพื้นที่ ดูแลเรื่องบัตรสวัสดิการควบคู่ไปกับอีเพย์เมนต์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :