เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และใช้มาตรการเคอร์ฟิว ใช้ในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ อีก 8 เมือง เช่น ลียง ตูลูส เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยประเมินว่ามาตรการเคอร์ฟิวของฝรั่งเศสจะกระทบประชาชนประมาณ 22 ล้านคน
รัฐบาลฝรั่งเศสห้ามประชาชนใน 9 เมืองออกจากบ้านช่วง 21:00 - 6:00 น. นับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปเป็น 6 สัปดาห์ ประชาชนจะต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการออกจากบ้านในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับ 135 ยูโร (เกือบ 5,000 บาท)
มาตรการนี้ออกมาหลังจากที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 20,000 คน ในจำนวนนี้มีมากกว่า 200 คนที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มีมากกว่า 32,000 รายแล้ว โดยมาครงย้ำว่า ขอให้ทุกคนเคารพมาตรการใหม่นี้ เพื่อที่รัฐบาลจะได้ไม่ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นไปอีกระดับ
ทั้งนี้ โรงเรียนจะยังเปิด และประชาชนยังสามารถเดินทางข้ามเมืองได้ในช่วงเวลากลางวัน แต่การรวมตัวกันในบ้านพักส่วนตัวจะต้องไม่เกิน 6 คน ยกเว้นครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลได้
รัฐบาลหลายประเทศในยุโรปประกาศมาตรการเข้มในการป้องกันโควิด-19 ระบาดรอบ 2 เนเธอร์แลนด์สั่งปิดเมืองบางส่วน ปิดคาเฟ่และร้านอาหาร ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสเปนก็สั่งปิดบาร์และร้านอาหารเป็นเวลา 15 วัน ส่วนสาธารณรัฐเช็กที่มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในยุโรปในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็สั่งปิดโรงเรียนและบาร์
ด้านเยอรมนีประกาศให้บาร์และร้านอาหารปิดร้านภายในเวลา 23.00 น.ในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 50 คนต่อประชากร 100,000 คน และการรวมตัวกันในพื้นที่ส่วนตัวต้องไม่เกิน 10 คนจากไม่เกิน 2 บ้าน หลังจากที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 5,000 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. และในวันที่ 15 ต.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นอีก 6,638 คน ถือเป็นยอดสูดที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในเยอรมนี
ที่มา : BBC, Europe News