ไม่พบผลการค้นหา
อดีตพนักงาน ธ.ก.ส. ให้ข้อมูล ป.ป.ช. 3 ประเด็น ชี้เรื่องการแจ้งหนี้ผิดปกติ, วงเงินโอนออกผิดปกติ และนำโครงการมันสำปะหลังมาโยง กับความเสียหายจำนำข้าว

น.ส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อนโยบายรัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. เข้าให้ถ้อยคำรวมถึงพยานหลักฐาน กรณีที่ได้ยื่น ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตัวเลขทางบัญชีในโครงการรับจำนำข้าวต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.

น.ส.ชญาดา เปิดเผยว่า การให้ข้อเท็จจริงมุ่งประเด็นไปที่หน้าที่ของ ธ.ก.ส. โดยเฉพาะการสรุปภาระหนี้ และแจ้งหนี้ไปยังองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรรม หรือ อ.ต.ก. และองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. รวมถึงกระทรวงการคลัง เพื่อเบิกเงินชดเชย โดยจะชี้ให้เห็นว่าวงเงินที่ตรวจสอบพบว่า ธ.ก.ส. ยื่นไปนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร

อดีตพนักงาน ธ.ก.ส. ระบุว่า โดยหลักธนาคารจะต้องสรุปบัญชี ให้ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งในฐานะผู้ปฏิบัติงานได้ชี้มูลว่าตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้อง ส่วนจะมากไปหรือน้อยไปจะต้องมาดูในภาพรวม ซึ่งหากข้อเท็จจริง ป.ป.ช.รับฟังได้ว่ามีมูล ก็จะนำไปสู่การพิสูจน์พยานหลักฐานต่อไป

พร้อมกับตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หลังจากได้ชี้มูลไปแล้ว เหตุใดธ.ก.ส.จึงไม่เร่งแก้ไขและชี้แจงโดยเฉพาะการนำพยานหลักฐานออก มาแสดงให้เกิดความโปร่งใส แต่กลับปล่อยเรื่องให้ ยืดเยื้อจนถึงวันที่ตนเองต้องตัดสินใจ ยื่นข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการป.ป.ช.ตรวจสอบจนนำมาสู่การให้ถ้อยคำกับป.ป.ช.ในวันนี้

นอกจากจะได้ให้ข้อเท็จจริงเรื่องการชี้มูลหนี้ ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.แล้ว จะได้ให้ข้อเท็จจริงเรื่องวงเงินโอนออกที่ผิดปกติ รวมถึง การนำโครงการมันสำปะหลัง มาเกี่ยวโยงกับมูลค่าความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งสิ้น 3 ประเด็น

สำหรับการเรียกร้องความเป็นธรรม หลังสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ยอมรับว่ามีความผิดพลาด ในหลายขั้นตอน แต่ไม่ใช่การทุจริตนั้น นางสาวชญาดา ระบุว่า จะพิจารณา ฟ้องต่อศาลแรงงานรวมถึงอุทธรณ์คำสั่ง เลิกจ้างเมื่อคืนสถานะการเป็นพนักงาน และความเป็นธรรมให้ตัวเองต่อไป

ด้านนายกฤษณะ แต้เกียรติเจริญกุล ทนายความ น.ส.ชญาดา ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อเท็จจริงที่ อดีตพนักงานธ.ก.ส.นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องสำคัญ ในระดับนโยบายของประเทศ ซึ่งพบความไม่ปกติ ตัวเลขคลาดเคลื่อน 

ส่วนจะมีนัยยะ หรือส่งผล กระทบสำคัญต่อโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ จะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะจากการตรวจสอบเชื่อได้ว่า จากข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่าจะมีผลให้การสรุปตัวเลขความเสียหายในโครงการ ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะผิดเยอะ จึงเรียกร้องให้ตรวจสอบโดยละเอียด ดังนั้นหากธ.ก.ส. เมื่อเห็นความผิดพลาดแล้วจะต้องเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง