ไม่พบผลการค้นหา
จิรายุ ห่วงทรัพย์ เผย 'ลมนิ่ง' ส่งผลฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มขึ้น 2 วันนี้ ปภ.ช. คาดหลังอาทิตย์ที่ 16 ก.พ.นี้ สถานการณ์ดีขึ้น ด้านมาตรการห้ามเผาควบคุมได้มากกว่า 75% แล้ว บก.ลายจุดหนุนรัฐใช้มาตรการเข้มกันไฟป่า

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ติดตามการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะนี้มี 62 จังหวัดที่ประกาศห้ามเผาแล้ว ซึ่งถือว่าเกินเป้าหมายกว่าร้อยละ 75 แต่ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น เนื่องจากกระแสลมอ่อนกำลังลง ทำให้กระแสลมหยุดนิ่งในช่วงหนึ่งถึงสองวัน ตามที่กรมควบคุมมลพิษได้รายงานภาพรวมสถานการณ์ฝุ่นทั้งประเทศ

ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นไปตามคาดการณ์ว่า ฝุ่นจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ รวมถึง 17 จังหวัดภาคเหนือที่เริ่มมีค่าเกินมาตรฐาน โดยคาดว่า หลังจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครและภาคเหนือตอนบน

ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า ได้รายงานสถานการณ์จุดความร้อนในวันนี้พบว่า ประเทศไทยมีจุดความร้อนรวม 881 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้น 90 จุด โดย 5 จังหวัดที่พบมากที่สุด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์และกาฬสินธุ์

“ขณะที่จุดความร้อนในพื้นที่ป่า กรมป่าไม้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ร่วมกับจิตอาสาเข้าควบคุม โดยในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือพบจุดความร้อน 74 จุด เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 47 จุด ซึ่ง ปภ.ช.ได้เน้นย้ำให้เร่งดำเนินการเข้าดับไฟเพื่อป้องกันการลุกลามขยายวงกว้าง ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่“ นายจิรายุ กล่าว

ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย วันนี้ (11 ก.พ.2568) ชื่นชมภาครัฐใช้มาตรการเข้มข้นป้องกันไฟป่า โดยระบุว่า

เป็นปีที่รู้สึกได้เลยว่า รัฐใช้มาตรการเข้มข้นอย่างมากกับการป้องกันไฟป่า โดยกลไกฝ่ายปกครองถูกกดันอย่างหนัก ถ้ามีไฟที่ไหนนายอำเภอต้องตอบสนองรวดเร็ว มีการปิดป่าในช่วงฤดูไฟ

แนวคิดด้านบนคือการกดไฟไม่ให้มี หรือมีให้น้อยที่สุด ซึ่งผมเห็นว่าถูกต้องแล้ว ในอดีตจำนวนการเกิดไฟมีมากเกินไปมาก มากจนคุมไฟไม่ได้

ทีนี้ก็เหลือแค่กลไกการดับไฟว่า หากมีไฟเล็ดลอดขึ้นมาได้แล้ว ความเร็ว ขีดความสามารถในการเข้าควบคุมไฟจะเร็วพอกับการขยายตัวของไฟหรือไม่ และเอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ใช่ฤดูไฟจริงๆ แต่ปีนี้มาเร็วกว่าเกือบเดือน เมื่อถึงฤดูไฟแล้ว ไฟจะเกิดขึ้นจำนวนมาก ขอให้รัฐบาลตรวจสอบและสนับสนุนกลไกการดับไฟให้แข็งแกร่งตามด้วย