ไม่พบผลการค้นหา
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวในเชิงข่มขู่ว่า "หากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นจริง มันจะเต็มไปด้วยความเสียหายอย่างหนักจากอาวุธนิวเคลียร์"

ความเคลื่อนไหวนี้ถูกรายงานโดยสำนักข่าวต่างประเทศที่ได้อ้างอิงข้อมูลจาก TASS สำนักข่าวใต้การควบคุมของรัฐบาลรัฐเซียที่เปิดเผยว่า คำขู่ที่มีขึ้นนั้นคือการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกับสำนักข่าว Al Jazeera ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นหลังจากที่เขาได้กล่าวอ้างว่า "กรุงเคียฟของยูเครนพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์" และ "เราต้องตอบโต้ไปยังภัยอันตรายนี้โดยห้ามทำพลาดเด็ดขาด"

การแสดงความเห็นผ่านแถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียถูก 'เมิน' โดยคณะทูตและผู้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ 

ผู้เข้าร่วมจำนวนมากซึ่งเป็นส่วนใหญ่ขององค์ประชุมตัดสินใจ ‘วอร์คเอาท์’ ลุกและเดินออกจากที่ประชุม ทันทีที่นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเริ่มกล่าวแถลงผ่านลิงค์วิดีโอ เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงและไม่ยอมรับกับสงครามที่เกิดขึ้น

ลาฟรอฟได้กล่าววิจารณ์และโจมตีนโยบายของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกที่เขาอ้างว่าเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลยูเครนทำสงครามและก่ออาชญากรรมกับพลเมืองรัสเซียตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษารัสเซียในเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียจึงนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องใช้ปฏิบัติการทางการทหารเข้าปกป้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว 

สำนักข่าว TASS ยังรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ลาฟรอฟได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียในยูเครนมีเป้าหมายในการปลดอาวุธยูเครน โดยรัสเซียจะไม่ยอมให้ยูเครนสามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้" ซึ่ง TASS มักเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า "ปฏิบัติการทางการทหาร" ไม่ใช่ "การรุกรานยูเครน"