ไม่พบผลการค้นหา
ก้าวอีกขั้นของกลุ่มเซ็นทรัล ผ่าน 'เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง' ธุรกิจร่วมทุนเซ็นทรัล-เจดี ดิจิตส์-เจดี ดอทคอม พัฒนาแอปพลิเคชัน 'ดอลฟิน' เพื่อความสะดวกชีวิตดิจิทัล 5 ธุรกรรมการเงิน 'ชำระเงิน-กู้เงิน-ซื้อประกัน-ลงทุน-ทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม'

บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับบริษัท เจดี ดิจิตส์ (JD Digits) และ เจดี ดอทคอม (JD.com) ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจากประเทศจีน เปิดตัว 'ดอลฟิน' แพลตฟอร์มอัจฉริยะ (Dolfin Intelligent Platform) ที่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น 'ดอลฟิน' บริการชำระเงิน สินเชื่อส่วนบุคคล ประกันภัย ลงทุน และการตลาดออนไลน์ 

นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง กล่าวว่า เทรนด์ตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่พัฒนาสู่ยุค Digital Disruption อย่างแท้จริง ความต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินบนช่องทางดิจิทัลพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งยังมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม 

ดังนั้น บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง จำกัด จึงให้ความสำคัญของการพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะ 'ดอลฟิน' เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและมอบโซลูชั่นทางการเงินบนช่องทางดิจิทัลอย่างครบถ้วนทุกมิติ ครอบคลุม 5 บริการ ได้แก่ การชำระเงิน สินเชื่อส่วนบุคคล ประกันภัย การบริหารจัดการสินทรัพย์และการลงทุน และการทำการตลาดเฉพาะกลุ่มบนช่องทางออนไลน์ สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทฟินเทคแนวหน้าของประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยีระดับโลกมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์สู่ความเป็นเลิศทางการบริหารจัดการทางด้านการเงินส่วนบุคคลทุกมิติ 

อีกทั้งยังมุ่งเน้นการสร้าง Digi-Financial Ecosystem ร่วมกับพันธมิตรภาคธุกิจทั้งในและนอกเครือเซ็นทรัล ธนาคาร สถาบันการเงิน และภาครัฐ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัลสำหรับคนไทยทุกระดับ 

โดยบริการแรกที่เปิดตัวบนแอปพลิเคชัน ดอลฟิน คือบริการที่มุ่งเน้นการให้บริการชำระเงินบนช่องทางดิจิทัล (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์) โดยเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำระบบ E-KYC (Electronic Know-Your-Customer) มาใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้บริการ โดยผสานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (facial recognition) และการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (optical character recognition) ที่รับรองความปลอดภัยสูงสุด 

พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่แตกต่างโดยเป็นระบบ open-loop รายแรกของประเทศไทย ที่รองรับการชำระเงินและเติมเงินทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเติมเงินด้วยเงินสด หรือการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต บัตรเครดิต รวมถึงการรับชำระที่จุดพร้อมเพย์ และดอลฟิน ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินแต่ละครั้งด้วยเทคโนโลยี Dynamic QR Code ที่ถูกสร้างขึ้นเฉพาะสำหรับแต่ละยอดการใช้จ่าย พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์จากการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค 

ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมภาคธุรกิจ ลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสด เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และยังเสริมสร้างความเข้าใจกลุ่มลูกค้าให้แก่ผู้ประกอบการ จากการเรียนรู้ จดจำและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Big Data Analytics เพื่อสร้างประสบการชำระเงินที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคนไทย เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายให้เป็นเรื่องสนุก ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ตามแนวคิดหลักของแบรนด์ 'คิดให้ ใช้ฟิน'

ใช้ 'E-KYC' ที่แบงก์ชาติรับรองแล้ว พิสูจน์ตัวตนเปิดรับบริการ

สำหรับระบบ E-KYC (Electronic Know-Your-Customer) ที่บริษัทนำมาใช้ ดำเนินการตามกรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำมาใช้ยืนยันตัวตนสำหรับการสมัครใช้บริการ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจในความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) และการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (Optical Character Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง 

อีกทั้งระบบนี้ยังถูกพัฒนาสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ช่วยลดขั้นตอนลงทะเบียนเปิดบริการให้สะดวก รวดเร็ว เพียงถ่ายเซลฟี่และสแกนบัตรประชาชนให้ระบบทำการยืนยันตัวตนว่าบัตรประชาชนที่นำมาสมัครบริการกับผู้สมัครนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันจริงเพื่อระบบความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการ ก่อนจะขยายสู่ฟังก์ชั่นการชำระเงินด้วยใบหน้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต 

ส่วนการให้บริการชำระเงินในรูปแบบ open-loop ยังรองรับการชำระเงินและเติมเงินแบบครบครันทุกช่องทาง โดยสามารถเติมเงินสดเข้าสู่บัญชีดอลฟิน ผ่านเคาน์เตอร์ CenPay กว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ หรือเลือกที่จะเติมเงินผ่านแอป mobile banking หรือตัดจ่ายตรงโดยการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ทั้งนี้ ดอลฟิน ได้มีการจับมือกับพันธมิตรทั้ง Visa และ Mastercard เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องของการผูกบัตรเครดิตและเดบิตในการใช้งานแอปพลิเคชัน และมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยและผลประโยชน์ที่ตรงตามความต้องการที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่นด้วย 

นอกจากนี้ ยังรองรับจุดรับชำระเงินดิจิทัลที่หลากหลาย ทั้งร้านค้าพันธมิตรใน Ecosystem เครือเซ็นทรัล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต แฟมิลี่มาร์ท บีทูเอส (B2S) มูจิ (Muji) มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ (Mark & Spencer) มัทสึโมโตะ คิโยชิ (matsumoto kiyoshi) เซกาเฟรโด (Segafredo) ออฟฟิศเมท (Officemate) ซุปเปอร์สปอร์ต (Supersports) Watts by Komonoya ร้านอาหารชั้นนำในเครือ CRG อาทิเช่น Mister Donut, Auntie Anne’s, Pepper Lunch, Ootoya, Yoshinoya, Tenya, Katsuya, Chabuton, Cold Stone, Thai Terrace, อร่อยดี และ สุกี้เฮาส์ และโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กว่า 2,700 จุดรับชำระ และครอบคลุมจุดบริการพร้อมเพย์ของทุกธนาคารกว่า 4.5 ล้านจุด และพร้อมรองรับร้านค้าที่รับ MyPromptQR (B Scan C) รวมถึงร้านค้าในเครือข่ายของธนาคารพันธมิตรอย่างธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย ซึ่งดอลฟิน มีแผนในการขยายร้านค้าพันธมิตรทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าบนช่องทางออนไลน์ และยังสามารถใช้ดอลฟินในการชำระเงินสินค้าต่างๆ บนแอปพลิเคชั่น JD Central เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายแบบไร้ขีดจำกัด