พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ช่วยนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 7 หาเสียงโค้งสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้งซ่อมวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2562 โดยมีแกนนำพรรคมาร่วม อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมทั้ง ส.ส., อดีต ส.ส., และกลุ่มเพื่อไทยพลัส
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนเห็นบรรยากาศที่พี่น้องชาวหนองเรือมาฟังปราศรัยวันนี้อย่างคับคั่ง ตนรู้สึกดีใจ ตอนนี้ประชาชนในประเทศกำลังอดอยากเพราะเงินในกระเป๋ามันไม่มี เพราะการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี โดยใช้รัฐธรรมนูญที่คนร่างบิดเบี้ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยย้ำและอยากจะบอกกับประชาชนว่าให้ปักป้ายชื่อและเน้นนามสกุลของคนร่างรัฐธรรมนูญและคณะขนาดใหญ่ ให้เห็นว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ประเทศเจริญประชาชนก็จะได้สรรเสริญ คน 80 กว่าคนที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้มา
แต่หากบ้านเมืองกำลังจะตกอับประชาชนก็จะได้รู้ว่าตระกูลของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นคนที่ทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงและเสียหาย วันนี้สมควรแก่เวลาแล้ว ที่ พลเอกประยุทธ์ ควรลาออกไปแล้วให้คนที่มีความสามารถมาบริหารประเทศ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วบ้านเมืองถดถอยแค่ไหน และศึกเลือกตั้งซ่อมขอนแก่นครั้งนี้ จะเป็นจุดชี้ว่ารัฐบาลควรจะไปต่อหรือไม่ 22 ธันวาคมนี้ขอให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ
นายธนิก ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวว่าวันนี้มาขอโอกาสจากพี่น้องหนองเรืออีกครั้ง ให้ตนได้เข้าไปทำงานในสภาฯ เป็นตัวแทนเพื่อเป็นปากเป็นเสียง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ย่ำแย่มากในขณะนี้ ทุกครั้งที่ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพี่น้องหลายคนสะท้อนสารพัดปัญหาให้ฟัง ซึ่งตนก็ตระหนักและคิดว่าหากประเทศชาติยังย่ำแย่ ผู้นำประเทศไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและดีแต่แจก อีกไม่นานประเทศชาติจะพังพินาศ ดังนั้นวันที่ 22 ธันวาคมนี้โอกาสอยู่ในมือของพี่น้องทุกคนแล้วโปรดให้โอกาสนั้นกับตนเองด้วย
นายสมชาย กล่าวว่า เราได้ ส.ส. จากการโหวตจากประชาชนมากที่สุด มีที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับโลก มีคนทำงาน แต่เราไม่มีโอกาสได้ทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพราะปัญหามันอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ดังนั้นวันนี้ตนจะส่งนายธนิก ไปแก้รัฐธรรมนูญให้เราได้กลับมาเป็นรัฐบาล นายธนิกต้องไปทำงานแทนเรา ไปทวงถามว่าที่บริหารมา 5-6 ปี ประเทศชาติเจริญไหม ถ้าไม่ได้ก็ออกไปให้เราบริหารเอง พร้อมยืนยันว่านายธนิกไม่มีทางเป็นงูเห่า การเลือก ส.ส. ฝ่ายค้านไม่ใช่เข้าไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ ตนเขื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ ด้วยการแก้ปัญหา เช่น ภัยแล้ง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าถ้าพี่น้องไม่ลืมเรา เราก็จะไม่ลืม ที่ทุกวันนี้พรรคลืมตาอ้าปากทางการเมืองก็เพราะพี่น้องชาวอีสาน แม้วันนี้จะไม่ได้เป็น ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ก็จะอยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทยตลอดไป
นายสุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้วุฒิภาวะต่ำ เคยชี้หน้าด่าตนในสภา เพราะตนถามแทงใจดำว่าที่ผ่านมาทำให้ประเทศชาติดีขึ้นยังไงบ้าง ดังนั้นหากประชาชนเห็นว่าที่ผ่านมาดี ก็อยู่กับรัฐบาลชุดนี้ต่อไป แต่ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้ามาพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ข้าวของแพงขึ้น สินค้าเกษตรถูกลง ส่งออกติดลบ แต่เจ้าสัวกลับรวยขึ้น
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณชาวหนองเรือที่ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง 24 มีนาคมที่ผ่านมา ตนรู้ว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนความทุกข์แน่นเต็มอก ตอนเลือกตั้งรัฐบาลสัญญาสารพัด ตั้งแต่เพลง “เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน...” ก็ใช้เวลาไปแล้ว 5 ปี สินค้าเกษตรที่สัญญาไว้ก็ราคาตกต่ำไม่เป็นไปตามที่หาเสียง เงินเยียวยาภัยแล้งก็ยังไม่ได้ แต่เดี๋ยวประชาชนจะได้ เพราะแค่นายธนิกลงสมัคร รัฐบาลก็รีบประกาศจะจ่ายเงินภัยแล้ง แต่ยังไม่พอ เพราะถ้านายธนิกเข้าสภา จะไปทวงสัญญาให้หมดทุกอย่าง
เช่น แก้ปัญหายาเสพติด มารดาประชารัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าแรงอาชีวะและปริญญาตรี อีกทั้งบัตรคนจนก็ไม่ช่วยให้คนรวยขึ้น แต่ทำให้คนจนซ้ำ เจ้าสัวรวย อีกทั้งยังซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีกสองลำทั้งที่ประชาชนอดอยาก นายธนิกจะไปทวงเงินตรงนี้มาให้พี่น้องประชาชน นายธนิกเป็นลูกชาวนาแท้ๆ เข้าใจประชาชน และ 1 เสียงของนายธนิกจะไปไล่ พลเอก ประยุทธ์ ออกไป ตนขอสัญญาว่าถ้านายธนิกชนะการเลือกตั้ง ตนและพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งประชาชน จะตามไปอยู่เคียงข้างเพื่อแก้ปัญหา ช่วงนี้ได้ข่าวว่ามีการแจกเงินและให้ดื่มน้ำสาบาน แต่การดื่มน้ำสาบานคือเพื่อทำความดีแต่ถ้าขายเสียงคือทำบาป
อีกทั้งตนยังขอประกาศว่าข้าราชการปกครองที่นี่ยังวางตัวไม่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ และผู้ว่าราชการ พร้อมกล่าวอีกว่าถ้าวางตัวไม่เป็นกลางจำคุก 10-20 ปี อย่าให้ข้าราชการที่ไม่ดีมาหลอกเรา สิทธิในการกาเลือกตั้งเป็นของเรา อย่าไปกลัวบัตรเลือกตั้งกับใบเซ็นชื่อคนละใบกัน อย่ายอมให้ข้าราชการไม่ดีมาขู่ แล้วชาวบ้านจะส่งข้าราชการที่ไม่ดีไปเข้าคุก ถ้าใครเจอให้มาบอก แล้วตนจะจัดการเอง